|
หัวข้อ
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในความเห็นของประชาชน |
|
|
เนื่องในโอกาสที่วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญ ประกอบกับประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับการร่าง
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนฉบับปี 2540 ที่ถูกยกเลิกไปหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ
19 กันยายน 2549 ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัย
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
จึงได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในความเห็นของประชาชน
โดยเก็บ
ข้อมูลเมื่อวันที่ 1 - 5 ธันวาคมที่ผ่านมา จากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร
ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่
ในทุกภาค
ของประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น
สงขลา และชลบุรี จำนวน 1,390 คน สรุปผลได้ดังนี้
|
|
|
|
|
|
1. การรับรู้ข่าวสารการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนฉบับปี 2540 ที่ถูกยกเลิก
อันเนื่องมาจากเหตุการณ์
ยึดอำนาจ
19 กันยายน 2549
|
ร้อยละ |
ทราบข่าว |
81.5 |
ไม่ทราบข่าว |
18.5 |
กลุ่มที่ระบุว่าทราบ ได้ให้คะแนนความพึงพอใจต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่
จากคะแนนเต็ม 10 ผลปรากฏ ดังนี้
|
ได้คะแนน |
ความรวดเร็วในการดำเนินการเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ |
4.15 |
การเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้และมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับการร่าง
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
|
4.32 |
ความชัดเจนโปร่งใสของกระบวนการสรรหาสมัชชาแห่งชาติที่เป็นต้นทาง
ของสภาร่างรัฐธรรมนูญและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
|
4.41 |
|
|
|
|
|
|
2. ความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาชน
|
ร้อยละ |
เชื่อมั่น (โดยเชื่อมั่นมากร้อยละ 6.6 และค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 41.3) |
47.9 |
ไม่เชื่อมั่น (โดยไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 7.3 และไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ
44.8) |
52.1 |
|
|
|
|
|
|
3. ความคิดเห็นหากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะกำหนดให้นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง
|
ร้อยละ |
เห็นด้วย |
21.3 |
ไม่เห็นด้วย |
59.8 |
ไม่แสดงความเห็น |
18.9 |
|
|
|
|
|
4.
ความคิดเห็นต่อแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
|
ร้อยละ |
เห็นว่าควรมีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งหมด |
26.9 |
เห็นว่าควรนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาปรับแก้บางจุด
โดยจุดที่เห็นว่าควรปรับแก้มากที่สุดคือ
ต้องเปิดช่องให้สามารถ
ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้มากขึ้น
ไม่ให้
ฝ่ายการเมืองมาครอบงำองค์กรอิสระได้เหมือนที่ผ่านมา
และการลงโทษ
เอาผิดกับนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชัน
|
39.6 |
ไม่แสดงความเห็น |
33.5 |
|
|
|
|
|
5.
ความเชื่อมั่นว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้สำเร็จ
|
ร้อยละ |
เชื่อว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้สำเร็จ |
32.5 |
ไม่เชื่อว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้สำเร็จ
เพราะ นักการเมืองยังเป็นคนหน้าเดิมๆ/
ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า
รัฐธรรมนูญ
/ และประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจ เป็นต้น
|
12.5 |
ไม่แน่ใจ |
55.0 |
|
|
|
|
|
6.
สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้เป็นผลสำเร็จ (ตอบได้มากกว่า
1 ข้อ)
|
ร้อยละ |
ขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของประชาชนเป็นสำคัญ |
66.6 |
ขึ้นอยู่กับนักการเมือง/ผู้มีอำนาจที่จะนำรัฐธรรมนูญมาใช้เป็นสำคัญ |
54.5 |
ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ |
46.8 |
ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น อาทิ
จิตสำนึกของคนในชาติ และระดับการศึกษาของประชาชน
เป็นต้น |
5.7 |
|
|
|
|
|
7.
ความคิดเห็นต่อการนัดชุมนุมต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ในวันที่
10 ธันวาคมนี้ ที่ท้องสนามหลวง
|
ร้อยละ |
ไม่เห็นด้วยกับการนัดชุมนุมดังกล่าว |
78.6 |
เห็นด้วย |
21.4 |
|
|
|
|
|
|
|
|
รายละเอียดในการสำรวจ |
|
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ:
|
|
|
เพื่อสอบถามข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในประเด็นต่อไปนี้
1.
การรับรู้ต่อเรื่องราวการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
2.
ความพึงพอใจต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังดำเนินอยู่
3.
ความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน
โดยประชาชน เพื่อประชาชน
4. ความคิดเห็นต่อการที่หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะกำหนดให้นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง
5. ความคิดเห็นต่อการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าควรร่างใหม่ทั้งหมดหรือควรนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาปรับแก้ไข
และควรปรับแก้ในจุดใด
6.
ความเชื่อมั่นว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้สำเร็จ
7. ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยปฏิรูปการเมืองได้เป็นผลสำเร็จ
|
|
ระเบียบวิธีการสำรวจ: |
|
|
การสำรวจใช้วิธีเลือกจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ในแต่ละภาคของประเทศ
ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี
และสงขลา จากนั้นจึงสุ่มเขตการปกครอง/อำเภอ
และประชากรเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น
1,390 คน
เป็นเพศชายร้อยละ
47.1 และ เพศหญิง 52.9
|
|
ความคลาดเคลื่อน (Margin
of Error): ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน
5% ที่ระดับความเชื่อมั่น
95% |
|
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
|
|
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 1 - 5 ธันวาคม
2549
|
|
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ: 7
ธันวาคม 2549 |
|
สรุปผลการสำรวจ: |
|
|
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล |
|
|
ตารางที่
1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์ |
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เพศ: |
|
|
ชาย |
655 |
47.1 |
หญิง |
735 |
52.9 |
อายุ: |
|
|
18 - 25 ปี |
480 |
34.5 |
26- 35 ปี |
467 |
33.6 |
36 - 45 ปี |
322 |
23.2 |
46 ปีขึ้นไป |
121 |
8.7 |
การศึกษา: |
|
|
ต่ำกว่าปริญญาตรี |
546 |
39.3 |
ปริญญาตรี |
729 |
52.4 |
สูงกว่าปริญญาตรี |
115 |
8.3 |
อาชีพ: |
|
|
ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ |
213 |
15.3 |
ค้าขาย
/ ธุรกิจส่วนตัว |
236 |
17.0 |
พนักงาน
/ ลูกจ้างบริษัทเอกชน |
490 |
35.3 |
รับจ้างทั่วไป |
140 |
10.0 |
นิสิต / นักศึกษา |
269 |
19.4 |
อื่น ๆ อาทิ เกษตรกร พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ |
42 |
3.0 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
|
|
|
|
|
|
|