|
หัวข้อ
อนาคตการเมืองไทยในทัศนะของประชาชน |
|
|
นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มาจนถึงปัจจุบัน ได้มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวด้านการเมืองหลายอย่าง
เกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลสำคัญต่ออนาคตทางการเมืองของประเทศไทยทั้งสิ้น นับตั้งแต่การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แทนฉบับปี 2540
ที่ถูกยกเลิกไป การดำเนินการเกี่ยวกับคดียุบพรรคการเมือง การดำเนินการเอาผิดเรื่องทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลชุดที่แล้ว
และการเคลื่อนไหวของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนิน
โครงการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง
อนาคตการเมืองไทยในทัศนะของประชาชน โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร
ปริมณฑล และจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ในทุกภาคของประเทศ ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และชลบุรี
จำนวน 1,321 คน เมื่อวันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2550
สรุปผลได้ดังนี้
|
|
|
|
|
|
1. ความรู้สึกที่ประชาชนมีต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน
|
ร้อยละ |
รู้สึกว่าน่าเป็นห่วง
โดยเห็นว่าน่าเป็นห่วงมากร้อยละ 39.0 และค่อนข้างน่าเป็นห่วงร้อยละ 49.2 |
88.2 |
รู้สึกว่าไม่น่าเป็นห่วง
โดยเห็นว่าไม่น่าเป็นห่วงเลยร้อยละ 3.3 และไม่ค่อยน่าเป็นห่วงร้อยละ 8.5 |
11.8 |
|
|
|
|
|
|
2. ประเด็นทางการเมืองที่ประชาชนมองว่าน่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ ได้แก่
|
ร้อยละ |
การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ |
17.5 |
ความขัดแย้งระหว่างผู้มีอำนาจและการปฏิวัติซ้อน |
16..6 |
การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร |
16.5 |
การทำงานของรัฐบาล |
15.9 |
การดำเนินการเอาผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลทักษิณ |
15.7 |
การสืบทอดอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ |
11.9 |
คดียุบพรรคการเมือง |
3.5 |
อื่นๆ อาทิ เรื่องปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ |
2.4 |
|
|
|
|
|
|
3. ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะสามารถทำให้สถานการณ์ทางการเมือง
ของไทยคลี่คลายลงได้
|
ร้อยละ |
เชื่อมั่นว่าจะทำได้
โดยเชื่อมั่นมากร้อยละ 5.7 และค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 40.6 |
46.3 |
ไม่เชื่อมั่นว่าจะทำได้
โดยไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 10.1 และไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 43.6 |
53.7 |
|
|
|
|
|
4.
การคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคตการเมืองไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าเมื่อครบกำหนดที่ร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับใหม่แล้วเสร็จ
|
ร้อยละ |
เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน |
24.6 |
เชื่อว่าจะไม่แตกต่างจากปัจจุบัน |
31.9 |
เชื่อว่าจะแย่ลงกว่าในปัจจุบัน |
8.2 |
ไม่แน่ใจ |
35.3 |
|
|
|
|
|
5.
ความต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก
|
ร้อยละ |
ต้องการ |
29.1 |
ไม่ต้องการ |
69.8 |
ไม่แน่ใจ |
1.1 |
|
|
|
|
|
6.
สิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
|
ร้อยละ |
เร่งทำงานให้เต็มที่เพื่อบ้านเมือง |
24.5 |
ให้เข้มแข็ง เด็ดขาด และกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง |
17.8 |
ทำดีแล้วขอเป็นกำลังใจให้ |
14.0 |
แก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ให้ได้เสียที |
9.3 |
เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในคดีทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลทักษิณ |
8.2 |
เร่งแก้ปัญหาความยากจน และค่าครองชีพ |
8.0 |
เร่งคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองเพื่อความสามัคคีของคนในชาติ |
7.4 |
ดูแลเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ดีเพื่อจะได้คืนอำนาจให้ประชาชน |
5.1 |
ให้ลาออกเพราะไม่เห็นผลงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม |
2.4 |
ให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทย |
1.2 |
อื่นๆ อาทิ ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก แก้ปัญหาเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิและชี้แจง
ทำความเข้าใจกับต่างประเทศให้ชัดเจน |
2.1 |
|
|
|
|
|
|
|
|
รายละเอียดในการสำรวจ |
|
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ: |
|
|
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่ออนาคตทางการเมืองของไทย ในประเด็นเกี่ยวกับ
1. ความรู้สึกต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทยในปัจจุบัน
2. ประเด็นทางการเมืองที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้
3. ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะสามารถทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยคลี่คลายลงได้
4. การคาดการณ์อนาคตทางการเมืองของประเทศไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า เมื่อครบกำหนดที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะแล้วเสร็จ
5. สิ่งที่อยากฝากไปถึงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) |
|
ระเบียบวิธีการสำรวจ: |
|
|
โครงการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง อนาคตการเมืองไทยในทัศนะของประชาชน นี้ใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขต
กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ในแต่ละภาค ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา พระนคร-
ศรีอยุธยา นครปฐม และชลบุรี โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และกำหนดลักษณะของตัวอย่างให้
สอดคล้องกับประชากรเป้าหมาย ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,321 คน เป็นเพศชายร้อยละ 47.0
และเพศหญิงร้อยละ 53.0
|
|
ความคลาดเคลื่อน (Margin
of Error): ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน
5% ที่ระดับความเชื่อมั่น
95% |
|
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
|
|
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 13 - 19 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ: 22 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
สรุปผลการสำรวจ: |
|
|
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล |
|
|
ตารางที่
1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์ |
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เพศ: |
|
|
ชาย |
621 |
47.0 |
หญิง |
700 |
53.0 |
อายุ: |
|
|
18 - 25 ปี |
328 |
24.8 |
26 - 35 ปี |
519 |
39.3 |
36 - 45 ปี |
294 |
22.3 |
46 ปีขึ้นไป |
180 |
13.6 |
การศึกษา: |
|
|
ต่ำกว่าปริญญาตรี |
547 |
41.4 |
ปริญญาตรี |
646 |
48.9 |
สูงกว่าปริญญาตรี |
128 |
9.7 |
อาชีพ: |
|
|
ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ |
304 |
23.0 |
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว |
226 |
17.1 |
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน |
467 |
35.4 |
รับจ้างทั่วไป |
161 |
12.2 |
เกษตรกร ชาวประมง |
41 |
3.1 |
อื่นๆ อาทิ นิสิต นักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน ฯลฯ |
122 |
9.2 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
|
|
|
|
|
|
|