|
|
หัวข้อ ความคิดเห็นต่อปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา
|
|
|
สืบเนื่องจากประเด็นข่าวสารเรื่องปัญหาการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของนิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาในปัจจุบัน
ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ร่วมกันระดมความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข
ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงวัฒนธรรมมีแนวคิดร่วมกันเสนอให้ผลักดันการแก้ไข
ปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นต่อประเด็นปัญหาดังกล่าวในมุมมองของนิสิต นักศึกษา
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนินการสำรวจเรื่อง ความคิดเห็นต่อปัญหา
การแต่งกายของนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยเก็บข้อมูลจากนิสิต นักศึกษาระดับอนุปริญญา
และปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนทั่วทุกภาคของประเทศ จำนวน 1,743 คน เป็นเพศชาย
ร้อยละ 36.9 และเพศหญิงร้อยละ 63.1 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 16 กรกฎาคม 2550 โดยร่วมมือกับบริษัท เอ็มเว็บ
(ประเทศไทย) จำกัด ในการเก็บผลสำรวจบางส่วนผ่านเว็บไซต์สนุกดอทคอม สรุปผลได้ดังนี้
|
|
|
|
|
|
1. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อประเด็นปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษา
ในปัจจุบันว่าเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
|
ร้อยละ |
เห็นด้วย |
72.6 |
ไม่เห็นด้วย |
|
ไม่แสดงความเห็น |
14.6 |
|
|
|
|
|
|
2. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษาไทย
ในปัจจุบันว่ามีความน่าเป็นห่วงเพียงใด พบว่า
|
ร้อยละ |
เห็นว่าเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงมาก |
27.4 |
เห็นว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง |
54.2 |
เห็นว่าเป็นปัญหาที่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง |
13.4 |
เห็นว่าเป็นปัญหาที่ไม่น่าเป็นห่วงเลย |
5.0 |
|
|
|
|
|
|
3. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการแต่งกายไม่เหมาะสมของนิสิต นักศึกษา
จะก่อให้เกิดผลเสีย หรือปัญหาใดมากที่สุด (เป็นคำถามปลายเปิดให้ระบุคำตอบเอง)
|
ร้อยละ |
ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม อาทิ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืน |
59.9 |
ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันและของตนเอง |
17.8 |
ก่อให้เกิดปัญหาจี้ ปล้น วิ่งราวทรัพย์ |
5.4 |
ขัดกับวัฒนธรรมอันดีงามของไทย |
4.3 |
ไม่แสดงความเห็น |
4.2 |
เห็นว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ |
3.8 |
เสียบุคลิกภาพ เสียสุขภาพ |
3.1 |
อื่นๆ อาทิ สิ้นเปลือง ไม่เหมาะสมกับวัย |
1.5 |
|
|
|
|
|
4. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อกรณีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวง
ศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรมจะผลักดัน เรื่องการแก้ปัญหาการแต่งกายของ
นิสิต นักศึกษา ให้เป็นวาระแห่งชาติ พบว่า
|
ร้อยละ |
เห็นด้วย
เพราะ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะรุนแรงกว่านี้ เป็นการลด
ปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคมได้ นักศึกษาจะได้แต่งกายเรียบร้อยขึ้น และ
เพื่อรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม |
68.5 |
ไม่เห็นด้วย
เพราะ ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่ระดับวาระแห่งชาติ เป็นการจำกัดสิทธิส่วนบุคคล
เป็นความพอใจส่วน
บุคคล และอาจเป็นการยิ่งห้ามยิ่งยุ
|
31.5 |
โดยจำนวนที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติจำนวน
ร้อยละ 31.5 เห็นว่า
|
ร้อยละ |
ควรให้นิสิต นักศึกษาหรือองค์กรนิสิต นักศึกษาเป็นหลักในการแก้ปัญหา |
15.1 |
ควรให้อาจารย์และสถาบันการศึกษาเป็นหลักในการแก้ปัญหา |
9.9 |
ควรให้ผู้ปกครองเป็นหลักในการแก้ปัญหา |
2.5 |
อื่นๆ อาทิ ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน |
4.0 |
|
|
|
|
|
5. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างถึงมาตรการที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาการแต่งกายของ
นิสิต นักศึกษาแล้ว คิดว่าจะทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด
|
ร้อยละ |
ใช้กฎระเบียบของสถาบันการศึกษามาเป็นตัวบังคับอย่างจริงจัง
อาทิ ตัดคะแนน หรือไม่ให้เข้าชั้นเรียน
|
47.5 |
ใช้การรณรงค์หรือชักจูงใจให้นิสิต นักศึกษา หันมาแต่งกายให้เหมาะสม |
30.2 |
ใช้มาตรการทางกฎหมายในการบังคับให้ผู้ผลิต เลิกผลิตเสื้อนักศึกษาที่ฟิต โป๊
หรือมีขนาดเล็กจนเกินไป
|
15.7 |
อื่นๆ อาทิ ใช้ทั้ง 3 มาตรการรวมกัน |
6.6 |
|
|
|
|
|
6. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการที่สถาบันการศึกษาจะอนุญาตให้นักศึกษา
แต่งชุดธรรมดาที่สุภาพ (Private) แทนการใส่ชุดนักศึกษา
|
ร้อยละ |
ไม่เห็นด้วย |
57.2 |
เห็นด้วย |
42.8 |
|
|
|
|
|
7. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างกรณีที่ หากสถาบันการศึกษาอนุญาตให้
นักศึกษาแต่งชุดธรรมดาที่สุภาพ (Private) แทนการใส่ชุดนักศึกษามาเรียนแล้ว
ปัญหาเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสมของนิสิต นักศึกษาจะหมดไปหรือไม่ พบว่า
|
ร้อยละ |
เชื่อว่าปัญหาเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสมจะยังคงมีอยู่ |
60.0 |
เชื่อว่าปัญหาเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสมจะหมดไป |
22.3 |
ไม่แสดงความเห็น |
17.7 |
|
|
|
|
|
|
รายละเอียดในการสำรวจ |
|
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ: |
|
|
เพื่อสอบถามความคิดเห็นและสะท้อนมุมมองของนิสิต นักศึกษาเกี่ยวกับทัศนคติต่อปัญหาการแต่งกายของ
นิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาในปัจจุบันให้สาธารณชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและเป็นข้อมูลในการ
กำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหา |
|
ระเบียบวิธีการสำรวจ: |
|
|
การสำรวจเรื่อง ความคิดเห็นต่อปัญหาการแต่งกายของนิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ใช้วิธีเลือกกลุ่ม
ตัวอย่าง 2 วิธีคือ วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบยึดหลักความน่าจะเป็น (Probability Sampling) และวิธีเลือกกลุ่ม
ตัวอย่างแบบไม่ยึดหลักความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) จากนั้นใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหลาย
ขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนจำนวน 19 แห่ง ในเขต
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ทำการสุ่มคณะ ชั้นปีและ
ประชากรเป้าหมาย สำหรับประชากรเป้าหมายในต่างจังหวัดใช้การสุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก
(Convenience Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,743 คน เป็นเพศชายร้อยละ 36.9 และเพศหญิงร้อยละ
63.1
|
|
ความคลาดเคลื่อน (Margin
of Error): ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน
10%
ที่ระดับความเชื่อมั่น
95% |
|
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้ |
|
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 28 มิถุนายน - 16 กรกฎาคม 2550 |
|
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ: 27 กรกฎาคม 2550 |
|
สรุปผลการสำรวจ: |
|
|
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล |
|
|
ตารางที่
1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์ |
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เพศ: |
|
|
ชาย |
643 |
36.9 |
หญิง |
1100 |
63.1 |
อายุ: |
|
|
17 - 18 ปี |
178 |
10.2 |
19 - 20 ปี |
595 |
34.1 |
21 - 22 ปี |
699 |
40.1 |
23 ปีขึ้นไป |
271 |
15.6 |
การศึกษา: |
|
|
อนุปริญญาตรี |
94 |
5.4 |
ปริญญาตรี |
1649 |
94.6 |
อาชีพ: |
|
|
สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
535 |
30.7 |
สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน |
836 |
48.0 |
สถาบันราชภัฎ/ราชมงคล |
274 |
15.7 |
วิทยาลัย/อื่นๆ |
98 |
5.6 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
|
|
|
|
|
|
|