หัวข้อ “คนไทยกับการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม (สำรวจครั้งที่ 2) ”
   

       ด้วยการเลือกตั้งครั้งสำคัญของคนไทย จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550    ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์
สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “คนไทยกับการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม”
ครั้งที่ 2 ขึ้นโดยเก็บข้อมูลจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน 16 จังหวัดจากทั้ง 8 กลุ่มจังหวัดที่คณะกรรมการ
การเลือกตั้งกำหนดสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วน ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี เชียงใหม่ แพร่ เพชรบูรณ์ ขอนแก่น
มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา จันทบุรี ราชบุรี นครปฐม นครศรีธรรมราช และสตูล
ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,472 คน โดยเป็นผู้ที่อาศัยในเขตเทศบาล ร้อยละ 39.9 และนอกเขตเทศบาล ร้อยละ 60.1
เก็บข้อมูลภาคสนามเมื่อวันที่ 4 - 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

     
   

                    1. ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อความตั้งใจที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.
                        ในการเลือกตั้งครั้งนี้

 
ร้อยละ
ตั้งใจว่าจะไปเลือกตั้ง
89.5
ตั้งใจว่าจะไม่ไปเลือกตั้ง
       เพราะ ต้องทำงาน ติดธุระ เดินทางลำบาก ไม่มีเวลา และเบื่อ เลือกตั้งไปก็เหมือนเดิม
5.8
ยังไม่แน่ใจ
4.7
     
   

                    2. สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่าจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นั้น

                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเมื่อสอบถามว่า ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ส. ที่จะเลือก
                    อยู่ในใจแล้วหรือยัง พบว่า

 
ร้อยละ
มีแล้ว
62.6
ยังไม่มี
37.4


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเมื่อสอบถามถึงลักษณะการเลือก ส.ส. แบบรวมเขต
                    เรียงเบอร์ พบว่า

 
ร้อยละ
จะเลือกผู้สมัครจากพรรคเดียวกันแบบยกทีม
57.0
จะเลือกผู้สมัครเป็นรายบุคคลจากหลายพรรค
43.0


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อพรรคการเมืองที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าจะเลือก
                    ในระบบสัดส่วน คือ

 
ร้อยละ
พรรคประชาธิปัตย์
34.2
พรรคพลังประชาชน
31.9
พรรคชาติไทย
4.3
พรรคเพื่อแผ่นดิน
3.0
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
1.5
พรรคมัชฌิมาธิปไตย
1.4
พรรคประชาราช
1.0
พรรคอื่นๆ
3.0
ยังไม่ได้ตัดสินใจ
19.7


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการรับทราบในนโยบายของพรรคการเมือง
                    ที่ตั้งใจจะเลือก พบว่า

 
ร้อยละ
ทราบนโยบาย
68.0
ไม่ทราบนโยบาย
32.0


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ที่จะมาเป็น
                    นายกรัฐมนตรีคนต่อไป คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)

 
ร้อยละ
มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่คอรัปชัน
57.0
จริงจัง จริงใจ เสียสละเพื่อประชาชนและส่วนรวม
13.3
เป็นคนเก่ง มีความรู้
9.7
มีความเป็นผู้นำ กล้าคิดกล้าตัดสินใจ
6.6
สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้
5.6
มีความสามารถด้านเศรษฐกิจ
4.4
มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
1.9
อื่น ๆ เช่น มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นกลางทางการเมือง
1.5


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อหัวหน้าพรรคการเมืองที่คิดว่ามีความ
                    เหมาะสม ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด  คือ

 
ร้อยละ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
34.8
นายสมัคร สุนทรเวช
28.0
นายบรรหาร ศิลปอาชา
4.0
นายสุวิทย์ คุณกิตติ
1.9
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร
1.5
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์
1.3
นายเสนาะ เทียนทอง
0.9
อื่นๆ
2.6
ไม่แน่ใจ
22.3
ไม่มีใครเหมาะสม
2.7


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเมื่อสอบถามความเห็นของกลุ่มตัวอย่าง
                    ทั้งหมดว่า หากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะมาจากคนนอก ที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรค
                    การเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง พบว่า
 
ร้อยละ
ยอมรับได้
54.2
ยอมรับไม่ได้
45.8


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง
                   (กกต.) ว่าจะสามารถควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม นั้น 
                   พบว่า
 
ร้อยละ
เชื่อมั่น
      (โดยเชื่อมั่นมากร้อยละ 11.1  และค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 40.1)
51.2
ไม่เชื่อมั่น
       (โดยไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 9.1 และไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 39.7)
48.8


                             ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเมื่อสอบถามว่า ภายหลังการเลือกตั้งสถานการณ์
                   การเมืองของไทยจะเป็นอย่างไร ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เห็นว่า
 
ร้อยละ
สถานการณ์จะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
50.8
สถานการณ์จะแย่ลงกว่าปัจจุบัน
7.8
สถานการณ์จะไม่แตกต่างจากปัจจุบัน
41.4
   
 

   
 
รายละเอียดในการสำรวจ
  วัตถุประสงค์ของการสำรวจ:
   

       เพื่อทราบข้อมูลและความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่
23 ธันวาคม 2550 ในประเด็นต่อไปนี้
                        1. ความตั้งใจที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้
                        2. พรรคการเมืองที่จะเลือกจาก สส. ระบบสัดส่วน
                        3. การรับรู้ในนโยบายของพรรคการเมืองที่ตัดสินใจจะเลือก
                        4. คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
                        5. หัวหน้าพรรคที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด
                        6. ความเห็นหากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเป็นคนนอกที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง
                        7. ความเชื่อมั่นที่มีต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
                        8. ความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองของไทยดีขึ้น

  ระเบียบวิธีการสำรวจ:
   

       การวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง “คนไทยกับการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม” (สำรวจครั้งที่ 2)  ได้ดำเนินการเก็บ
ข้อมูลภาคสนามเมื่อวันที่ 4-10 ธันวาคม  จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม โดยสุ่มจังหวัด
ที่เป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบสัดส่วนทั้ง 8 กลุ่ม กลุ่มละ 2 จังหวัด รวม 16 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี
เชียงใหม่ แพร่ เพชรบูรณ์ ขอนแก่น มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา จันทบุรี ราชบุรี นครปฐม
นครศรีธรรมราช และสตูล  จากนั้นใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่สามารถเป็นตัวแทน
ของประชากรได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 1,472 คน  เป็นเพศชายร้อยละ 49.3 และเพศหญิงร้อยละ 50.7  โดยเป็นผู้ที่
อาศัยในเขตเทศบาล ร้อยละ 39.9 และนอกเขตเทศบาล ร้อยละ 60.1

  ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error): ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน  5%
                                                                        ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 

วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้

 

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 4 - 10   ธันวาคม 2550

  วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ: 13 ธันวาคม 2550
  สรุปผลการสำรวจ:
   
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล
   
ตารางที่ 1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์
   
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
726
49.3
             หญิง
746
50.7
อายุ:
 
 
             18 - 25 ปี
280
19.0
             26 - 35 ปี
467
31.7
             36 - 45 ปี
394
26.8
             46 ปีขึ้นไป
331
22.5
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
798
54.2
             ปริญญาตรี
616
41.9
             สูงกว่าปริญญาตรี
58
3.9
อาชีพ:
 
 
             ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
198
13.5
             พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน
354
24.0
             ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
266
18.1
             รับจ้างทั่วไป
250
17.0
             นิสิต นักศึกษา
134
9.1
             พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ
82
5.6
             เกษตรกร ประมง
117
7.9
             อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน
71
4.8
     
   

ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ ( Email: research@bu.ac.th )

   

โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776