ผลสำรวจกรุงเทพโพลล์ (BU Poll)

หัวข้อ “วัดและศาสนาในสายตาเยาวชน”

ด้วยในวันที่ 19 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งพุทธศาสนิกชนทุกคนควรถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำ
กิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุตรหลานในครอบครัวที่นับวันจะยิ่งหาโอกาสใกล้ชิดกับวัดและ
ศาสนาได้ยากขึ้นอันเนื่องจากวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย แต่ทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรได้ทราบถึง
ทัศนคติของเยาวชนในปัจจุบันที่มีต่อวัดและศาสนา เพื่อเป็นแนวทางหาวิธีที่จะทำให้เยาวชนได้ใกล้ชิดและใช้ศาสนา
เป็นที่พึ่งได้ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง
“วัดและศาสนาในสายตาเยาวชน” โดยเก็บข้อมูลจากเยาวชนอายุ 13-25 ปีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
จำนวน 1,233 คน เมื่อวันที่ 2-5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

1. การรับรู้ของเยาวชนต่อความสำคัญของวันวิสาขบูชาว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้า ประสูติ
ตรัสรู้ ปรินิพพาน พบว่า

	ร้อยละ
ทราบ	44.4
ไม่ทราบ	55.6

2. ความสำคัญของหลักคำสอนของศาสนาที่มีต่อการดำเนินชีวิตนั้น เยาวชนเห็นว่า

	ร้อยละ
มีความสำคัญมาก	53.2
มีความสำคัญค่อนข้างมาก	40.1
มีความสำคัญค่อนข้างน้อย	5.0
มีความสำคัญน้อย	1.6

3. การใช้หลักคำสอนของศาสนาเป็นทางออกในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่า

	ร้อยละ
เคยใช้หลักคำสอนของศาสนาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดย การให้อภัย ใช้สติแก้ปัญหา รู้จักอดทนอดกลั้นเมื่ออยู่ในสังคมคนหมู่มาก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นต้น	84.1
ไม่เคยใช้ เพราะ ไม่ค่อยรู้หลักคำสอนของศาสนา คิดหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง คำสอนเห็นผลช้า เป็นต้น	15.9

4. เมื่อถามความรู้สึกที่มีต่อ “วัด” ว่าสามารถเป็นที่พึ่งทางใจของเยาวชนได้หรือไม่นั้น
พบว่า

	ร้อยละ
เห็นว่าวัดเป็นที่พึ่งทางใจได้ โดยช่วยทำจิตใจให้สงบ ได้ไปนั่งสมาธิ ช่วยสอนหลักในการดำเนินชีวิต และช่วยสร้างกำลังใจ เป็นต้น	93.1
เห็นว่าวัดไม่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจได้ เพราะ ความเชื่อถือที่มีต่อวัดลดลง เห็นผลช้า ปรึกษาพ่อแม่และเพื่อน สะดวกกว่า เป็นต้น	6.9

5. ความเห็นที่ว่า ในปัจจุบันนี้วัดกับเยาวชนไทยห่างไกลกันมากขึ้น นั้น

	ร้อยละ
เห็นด้วย	91.6
ไม่เห็นด้วย	8.4

6. ทั้งนี้ เมื่อให้เยาวชนระบุถึงสาเหตุที่ไม่ค่อยเข้าวัด เนื่องจาก
( เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)

	ร้อยละ
มีกิจกรรมอื่นที่ดึงความสนใจได้มากกว่า เช่น การเที่ยวกับเพื่อน เล่นเกมส์ ออนไลน์ เล่นอินเทอร์เน็ต และเข้าสถานบันเทิง	35.1
วัดไม่มีกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับเยาวชน	31.0
ไม่มีคนชักชวน แนะนำ หรือทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง	9.8
ไม่เชื่อถือ และไม่เห็นประโยชน์ของการเข้าวัด	9.3
ไม่มีเวลา	8.4
อื่นๆ เช่น ตื่นสาย อาย ไม่กล้า	2.5
ไม่แสดงความเห็น	3.9

7. ความคิดเห็นต่อวิธีการที่จะทำให้เยาวชนได้ใกล้ชิดกับวัดและศาสนามากขึ้น คือ
( เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง )

	ร้อยละ
วัดต้องมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ที่สามารถดึงดูดเยาวชนได้	25.9
ปลูกฝังตั้งแต่เด็กโดยเริ่มที่พ่อแม่ สอนและทำเป็นแบบอย่าง	24.9
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรณรงค์ เผยแพร่ความรู้ และสร้างกิจกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างเยาวชนกับวัดให้มากขึ้น	24.1
โรงเรียนควรมีกิจกรรมเกี่ยวกับวัดและศาสนา หรือการสอนสอดแทรกในวิชาเรียน	12.0
พระสงฆ์ควรปรับแนวการเทศนาให้น่าสนใจ เข้าใจง่ายและเหมาะกับเยาวชน	4.9
ไม่แสดงความเห็น	8.2

8. ข้อปฏิบัติในศีล 5 ที่เยาวชนต้องการให้นักการเมืองไทยยึดถือปฏิบัติมากที่สุด คือ

	ร้อยละ
ไม่คิด หรือ กระทำการลักขโมย ฉ้อโกง คอร์รัปชั่น	62.7
ไม่พูดปด หลอกลวง หยาบคาย	19.0
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดทุกประเภท	9.3
ไม่คิด ไม่ร่วมรู้เห็นหรือทำร้ายสิ่งมีชีวิตทุกประเภท	5.7
ไม่คิด ไม่ประพฤติผิดทางชู้สาว	3.3

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ของการสำรวจ:

       เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเยาวชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในประเด็นต่อไปนี้
                  1. การรับทราบถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา
                  2. การให้ความสำคัญต่อหลักคำสอนของศาสนาในการดำเนินชีวิต
                  3. การใช้หลักคำสอนของศาสนาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
                  4. ความเห็นต่อการที่ วัดสามารถเป็นที่พึ่งทางใจของเยาวชนได้
                  5. ความเห็นที่มีต่อ วัดกับเยาวชนไทยห่างไกลกันมากขึ้น
                  6. สาเหตุที่ทำให้เยาวชนไม่ค่อยเข้าวัด
                  7. วิธีที่จะให้เยาวชนได้ใกล้ชิดกับวัด/ศาสนามากขึ้น
                  8. ศีล 5 ข้อที่เยาวชนต้องการให้นักการเมืองไทยยึดถือและปฏิบัติมากที่สุด

ระเบียบวิธีการสำรวจ:

การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มเขตการปกครอง
จำนวน 30 เขต จาก 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ทั้งเขตชั้นใน เขตชั้นกลาง และเขตชั้นนอก ได้แก่ เขตคลองเตย
คลองสาน คลองสามวา จตุจักร ดอนเมือง ดุสิต ตลิ่งชัน ทุ่งครุ ธนบุรี บางกะปิ บางขุนเทียน บางเขน บางคอแหลม
บางนา บางพลัด บึงกุ่ม ปทุมวัน ประเวศ ป้อมปราบฯ พญาไท มีนบุรี ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ ลาดกระบัง ลาดพร้าว
สวนหลวง สะพานสูง สาทร สายไหม หลักสี่ และปริมณฑล 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ
จากนั้นสุ่มถนน และประชากรเป้าหมายอายุ 13-25 ปีขึ้นไป ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,233 คน เป็นเพศชาย
ร้อยละ 43.5 และเพศหญิง ร้อยละ 56.5

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error): ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน

3%
ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล: การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 2 - 5 พฤษภาคม 2551

วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ: 15 พฤษภาคม 2551

สรุปผลการสำรวจ:

ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล

ตารางที่ 1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์

	จำนวน	ร้อยละ
เพศ:
ชาย	536	43.5
หญิง	697	56.5
อายุ:
13 - 15 ปี	269	21.8
16 - 18 ปี	316	25.6
19 - 21 ปี	330	26.8
23 - 25 ปี	318	25.8
การศึกษา:
กำลังศึกษาอยู่	1002	81.3
ไม่ได้ศึกษาแล้ว	231	18.7
อาศัยอยู่:
บิดา มากดา	844	68.5
ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา	79	6.4
พี่น้อง	75	6.1
เพื่อน	122	9.9
คนรู้จัก	24	1.9
อื่นๆ	89	72
ผลการเรียนล่าสุด:
ต่ำกว่า 2.00	96	7.8
2.00 - 3.00	731	59.3
3.01 - 4.00	406	32.9

ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ ( Email: research@bu.ac.th )

โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776