หัวข้อ ความกังวลของว่าที่บัณฑิตใหม่ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ
                  ช่วงใกล้สิ้นสุดปีการศึกษาของทุกปีจะเป็นช่วงที่ว่าที่บัณฑิตใหม่จากสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและ
เอกชนต่างเตรียมตัวหางานทำเพื่อสร้างอนาคตและแบ่งเบาภาระของครอบครัว แต่สำหรับปีนี้ผลกระทบที่ประเทศไทยได้รับ
อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ เป็นผลให้หน่วยงานหลายแห่งต้องปรับลดจำนวนพนักงาน บางแห่งไม่มีนโยบาย
รับพนักงานเพิ่ม โดยมีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีปัญหาคนว่างงาน ประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านคน ซึ่งส่งผลกระทบ
ต่อภาวะการหางานทำของว่าที่บัณฑิตใหม่เป็นอย่างยิ่ง  ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ดำเนินการ
สำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความกังวลของว่าที่บัณฑิตใหม่ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ”   โดยเก็บข้อมูลจากนิสิต
นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีสุดท้ายซึ่งกำลังจะจบการศึกษาในช่วงระยะนี้ จากมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนในเขต
กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 20 แห่ง รวมทั้งสิ้น 1,226 คน เป็นเพศชายร้อยละ 45.0 และเพศหญิงร้อยละ 55.0
เมื่อวันที่ 6 - 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้
 
             1. ความกังวลเรื่องการตกงานของว่าที่บัณฑิตใหม่ พบว่า

 
ร้อยละ
กังวล
       (โดยแบ่งเป็น กังวลมากร้อยละ 17.5 และค่อนข้างกังวล ร้อยละ 34.7)
52.2
ไม่กังวล
       (โดยแบ่งเป็น ไม่กังวลเลยร้อยละ 17.9 และไม่ค่อยกังวล ร้อยละ 29.9)
       (โดยกลุ่มที่ระบุว่าไม่กังวลให้เหตุผลว่า เนื่องจากมีแผนจะศึกษาต่อ และ
        จะกลับไปช่วยกิจการของครอบครัว ฯลฯ )
47.8

                       1.1 เมื่อเปรียบเทียบความกังวลระหว่างผู้ที่กู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
             กับผู้ที่ไม่ได้กู้ยืม พบว่า ผู้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนกู้ยืมฯ มีความกังวลเรื่องการตกงานมากกว่าผู้ที่
             ไม่ได้กู้ยืมร้อยละ 16.0 ดังนี้
 
มีความกังวล
(ร้อยละ)
ไม่มีความกังวล
(ร้อยละ)
ผู้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนกู้ยืม
64.4
35.6
ผู้ที่ไม่ได้กู้ยืม
48.4
51.6

                       1.2 เมื่อเปรียบเทียบความกังวลระหว่างผู้ที่ศึกษาในสถาบันของรัฐกับเอกชน พบว่า
             มีความกังวลใกล้เคียงกัน ดังนี้
 
มีความกังวล
(ร้อยละ)
ไม่มีความกังวล
(ร้อยละ)
ผู้ที่เรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาล
51.1
48.9
ผู้ที่เรียนในมหาวิทยาลัยของเอกชน
53.6
46.4
 
             2. ความมั่นใจของว่าที่บัณฑิตใหม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานที่เหมาะสมกับคุณวุฒิ
                 (ไม่ต่ำกว่าคุณวุฒิ) ที่จบมา พบว่า

 
ร้อยละ
มั่นใจ
      (โดยแบ่งเป็น มั่นใจมากร้อยละ 7.7 และค่อนข้างมั่นใจ ร้อยละ 29.7)
37.4
ไม่มั่นใจ
      (โดยแบ่งเป็น ไม่มั่นใจเลยร้อยละ 11.4 และไม่ค่อยมั่นใจ ร้อยละ 51.2)
62.6
 
             3. แนวทางการรับมือกับสถานการณที่เกิดขึ้นของว่าที่บัณฑิตใหม่ พบว่า

 
ร้อยละ
หาช่องทางประกอบอาชีพส่วนตัว
31.6
เรียนต่อเพื่อให้ได้คุณวุฒิที่สูงขึ้น
29.7
ยอมทำงานที่ได้ค่าตอบแทนต่ำกว่าคุณวุฒิ
16.5
ยังไม่มีแนวทางการรับมือ / ยังคิดไม่ออก
13.7
ศึกษา/อบรมทักษะเฉพาะด้านเพิ่มเติม เช่น ด้านภาษา
6.9
อื่นๆ อาทิ ยอมทำงานที่ไม่ตรงกับสาขาที่เรียน และไปหางานทำเมืองนอก
เป็นต้น
1.6
 
             4. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการฟื้นฟูและแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
                 พบว่า

 
ร้อยละ
เชื่อมั่น
      (โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นมากร้อยละ 12.2 และค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 53.2)
65.4
ไม่เชื่อมั่น
      (โดยแบ่งเป็น ไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 5.7 และไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 28.9)
34.6
 
             5. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ในการแก้ปัญหาเรื่องการว่างงาน พบว่า

 
ร้อยละ
เชื่อมั่น
      (โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นมากร้อยละ 9.0 และค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 46.5)
55.5
ไม่เชื่อมั่น
      (โดยแบ่งเป็น ไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 6.5 และไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 38.0)
44.5
 
             6. เรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาการตกงานของว่าที่
                 บัณฑิตใหม่ คือ

 
ร้อยละ
เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้บังเกิดผลโดยเร็ว
47.0
ส่งเสริมการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อขยายตำแหน่งงาน
31.7
จัดโครงการตลาดนัดแรงงานให้บ่อยขึ้น
8.0
เพิ่มเงินเดือนและค่าครองชีพเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย
5.9
เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนกับนักลงทุนต่างชาติ
4.9
อื่นๆ เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมธุรกิจ SME และเลิกโต้เถียงกันในสภา
ด้วยเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว ฯลฯ
2.5
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ:

                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นของว่าที่บัณฑิตใหม่ ในประเด็นต่อไปนี้
                     1. ความกังวลเรื่องการตกงาน
                     2. ความมั่นใจว่าจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานที่เหมาะสมกับคุณวุฒิ (ไม่ต่ำกว่า คุณวุฒิ) ที่จบมา
                     3. แนวทางการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
                     4. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

                     5. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการแก้ปัญหาเรื่องการว่างงาน
                     6. สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาการตกงานของบัณฑิตใหม่

 
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่กำลังศึกษาในชั้นปีสุดท้ายจากสถาบันอุดมศึกษา
ทั้งของรัฐและเอกชน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling)
ได้แก่ การสุ่มสถาบันอุดมศึกษาของรัฐจำนวน 10 แห่ง และเอกชนจำนวน 10 แห่ง จากนั้นจึงสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะ
สัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,226 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 45.0 และเพศหญิง ร้อยละ 55.0
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีรวบรวมเก็บข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม
ที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form)
จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 6 – 11 กุมภาพันธ์ 2552
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 16 กุมภาพันธ์ 2552
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางที่ 1: ข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
552
45.0
             หญิง
674
55.0
รวม
1,226
100.0
ประเภทของสถานศึกษา:
 
 
             รัฐบาล
708
57.7
             เอกชน
518
42.3
รวม
1,226
100.0
ที่มาของค่าเทอมในการเรียน:
 
 
             กู้จากกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา(กยศ.)
292
23.8
             ทุนส่วนตัว
934
76.2
รวม
1,226
100.0
 
Vote:  ดีมาก(5) ดี (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) แย่ (1)  
 ผลคะแนนVote              
 
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: research@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776