หัวข้อ   “ดัชนีความเสี่ยงของคนกรุงเทพฯ”
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ระบุคนกรุงเทพฯ  มีความเสี่ยงด้านการเมืองสูงที่สุด
โดยร้อยละ 62.8 อยากให้ควบคุมสถานการณ์ ยุติปัญหาการชุมนุม และทำการเมืองให้สงบโดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยง
ในการดำเนินชีวิต
                 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
             1. คะแนนความเสี่ยงของคนกรุงเทพฯ ในด้านต่างๆ พบว่า ความเสี่ยงด้านการเมือง มีคะแนน
                 สูงที่สุด 7.47 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน)  ขณะที่ความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์
                 ในครอบครัวมีคะแนนต่ำสุด 3.51 คะแนน ดังนี้

 
คะแนน
ความเสี่ยงด้านการเมือง
7.47
ความเสี่ยงด้านสุขภาพกาย
5.86
ความเสี่ยงในด้านสุขภาพจิต
5.85
ความเสี่ยงด้านค่าครองชีพและหนี้สิน
5.75
ความเสี่ยงด้านชีวิตและทรัพย์สิน
5.70
ความเสี่ยงด้านการเดินทาง
5.56
ความเสี่ยงด้านการงานอาชีพ
5.24
ความเสี่ยงด้านวัฒนธรรมประเพณี และความสัมพันธ์ในชุมชน
4.75
ความเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติและโรคระบาดร้ายแรง
4.46
ความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว
3.51
 
 
             2. สิ่งที่ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพฯ
                 (5 อันดับแรก) คือ


 
ร้อยละ
ควบคุมสถานการณ์ ยุติปัญหาการชุมนุม และทำการเมืองให้สงบโดยเร็ว
62.8
แก้ปัญหาสินค้าราคาแพง มาตรการป้องกันการถูกเลิกจ้าง ลดค่าแรง
11.1
แก้ปัญหารถติด ปรับปรุงคุณภาพระบบขนส่งมวลชนและ รถโดยสาร
ประจำทาง
10.4
เพิ่มจำนวนและจัดสรรเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลให้ทั่วถึงเพื่อแก้ปัญหาการ
ถูกทำร้ายร่างกาย ฉกชิงวิ่งราว
5.7
แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ ควันจากท่อไอเสีย
2.9
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  1. เพื่อสำรวจความเสี่ยงต่อการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพฯ ในด้านต่างๆ
                  2. เพื่อสะท้อนความเห็นต่อสิ่งที่ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดความเสี่ยงในชีวิตของคนกรุงเทพฯ
                  3. เพื่อเสนอแนะต่อภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเพื่อประโยชน์
                      ต่อสังคมส่วนรวม
 
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและอาศัยอยู่ในเขต
กรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการ
สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,318 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 44.2 และเพศหญิงร้อยละ 55.8
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัวและสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์  โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน โดยเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal)  จากนั้นคณะนักวิจัย
ได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 7 เมษายน 2553
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 7 เมษายน 2553
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
582
44.2
             หญิง
736
55.8
รวม
1,318
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 25 ปี
344
26.1
             26 – 35 ปี
428
32.5
             36 – 45 ปี
260
19.7
             46 ปีขึ้นไป
286
21.7
รวม
1,318
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
632
48.0
             ปริญญาตรี
588
44.6
             สูงกว่าปริญญาตรี
98
7.4
รวม
1,318
100.0
อาชีพ:
 
 
             ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
92
7.0
             พนักงาน / ลูกจ้างบริษัทเอกชน
348
26.4
             ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว
396
30.0
             รับจ้างทั่วไป
116
8.8
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
134
10.2
             อื่นๆ อาทิ นักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น
232
17.6
รวม
1,318
100.0
 
Vote:  ดีมาก(5) ดี (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) แย่ (1)  
 ผลคะแนนVote              
 
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776