หัวข้อ   “มองการเมืองไทยผ่านสายตาเยาวชน”
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็น
เยาวชนอายุ 15 -25 ปีในเขตกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสวันเยาวชน วันที่ 20 กันยายน
ที่จะถึงนี้ พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 62.1) ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ทางการเมือง
ค่อนข้างน้อยถึงไม่สนใจเลย  แม้ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 79.9) จะยังเห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องของ
ทุกคนในสังคม
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
 
                 ทั้งนี้เยาวชนเห็นว่าสภาพการเมืองไทยในปัจจุบัน มีแต่ความขัดแย้งและจ้อง
จับผิดกัน (ร้อยละ 47.6)  รองลงมาคือ วุ่นวาย น่าปวดหัว(ร้อยละ 26.7) ไม่เป็นประชาธิปไตย
(ร้อยละ 11.5)  และมีแต่ความรุนแรง (ร้อยละ 6.5)  โดยมีมุมมองต่อนักการเมืองไทยว่า
คำนึงถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง (ร้อยละ 44.0)  รองลงมาคือ ทำทุกอย่าง
เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ (ร้อยละ 16.2)    คอร์รัปชันโกงกิน (ร้อยละ 12.2)  และดีแต่พูด
(ร้อยละ 10.8)
 
                 สำหรับสิ่งที่อยากฝากบอกนักการเมืองมากที่สุดคือ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของ
ประชาชนและประเทศชาติให้มากๆ (ร้อยละ 28.9)   รองลงมาคือให้ตั้งใจทำงานอย่างซื่อสัตย์
สุจริต ไม่โกงกิน (ร้อยละ 27.1)  และให้เลิกทะเลาะกัน บ้านเมืองจะได้สงบ (ร้อยละ 17.7)
 
                 เมื่อถามว่าในอนาคตอยากเป็นนักการเมืองหรือไม่ เยาวชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90.6 ระบุว่า ไม่อยากเป็น
โดยให้เหตุผลว่า นักการเมืองมีชื่อเสียงที่ไม่ดี มีแต่คนเกลียด ไม่โปร่งใส กลัวไม่ปลอดภัย และต้องรับผิดชอบคนหมู่มาก
เป็นต้น   โดยมีเพียงร้อยละ 9.4 ที่ระบุว่าอยากเป็นนักการเมือง โดยให้เหตุผลว่า จะพัฒนาประเทศให้ดีกว่านี้ อยากเป็น
ผู้นำที่ดีนำพาประเทศให้พ้นวิกฤติ จะทำให้การคอร์รัปชันหมดไปจากเมืองไทย และอยากรู้ว่าแค่ทำสิ่งดีๆ ให้ประชาชน
มันยากตรงไหน เป็นต้น
 
                 สำหรับโครงการของรัฐบาลที่เยาวชนส่วนใหญ่ระบุว่าได้รับประโยชน์โดยตรงมากที่สุดคือ โครงการเรียนฟรี
15 ปี (ร้อยละ 46.3)  รองลงมาคือ โครงการกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (ร้อยละ 7.3)   และโครงการรถเมล์ฟรี
(ร้อยละ 5.2)
   
                 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
             1. ความสนใจที่มีต่อเหตุการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันของเยาวชน

 
ร้อยละ
สนใจค่อนข้างมากถึงสนใจมาก
           ( แบ่งเป็นสนใจค่อนข้างมากร้อยละ 30.5 และสนใจมาก
             ร้อยละ 7.4 )
37.9
สนใจค่อนข้างน้อยถึงไม่สนใจเลย
          
( แบ่งเป็นสนใจค่อนข้างน้อยร้อยละ 36.3 สนใจน้อยร้อยละ 17.7
             และไม่สนใจเลยร้อยละ 8.1 )
62.1
 
 
             2. เมื่อถามว่าการเมืองเป็นเรื่องของใคร หรือ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับใคร เยาวชนระบุว่า

 
ร้อยละ
ทุกคนในสังคม
79.9
นักการเมือง
6.8
รัฐบาล
6.0
คนที่มีสิทธิเลือกตั้ง
4.7
คนเสื้อสีต่างๆ
1.4
ผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้ว
1.2
 
 
             3. ความคิดเห็นต่อสภาพการเมืองไทยในปัจจุบัน คือ

 
ร้อยละ
มีแต่ความขัดแย้ง จ้องจับผิดกัน
47.6
วุ่นวาย น่าปวดหัว
26.7
ไม่เป็นประชาธิปไตย
11.5
มีแต่ความรุนแรง
6.5
เริ่มมีความปรองดองเกิดขึ้น
4.3
สงบนิ่งแล้ว
1.2
อื่นๆ อาทิ เป็นภาพลวงตา แฝงความรุนแรงไว้ภายใน ฯลฯ
2.2
 
 
             4. ความคิดเห็นต่อมุมมองที่มีต่อนักการเมืองไทย พบว่า

 
ร้อยละ
คำนึงถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
44.0
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ
16.2
คอร์รัปชั่น โกงกิน
12.2
ดีแต่พูด
10.8
มีสิทธิเหนือคนอื่นๆ เป็นอภิสิทธิ์ชน
6.5
มีความรู้ความสามารถเหมาะกับการเป็นตัวแทนของประชาชน
4.6
คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
4.3
ซื่อสัตย์สุจริต
0.6
อื่นๆ อาทิ ไม่ดีพอ ไม่กล้าตัดสินใจ ดีและเลวปะปนกัน ฯลฯ
0.8
 
 
             5. สิ่งที่เยาวชนอยากฝากบอกถึงนักการเมืองไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
                 (เป็นคำถามปลายเปิดให้เยาวชนระบุเอง)


 
ร้อยละ
ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติให้มากๆ
28.9
ให้ตั้งใจทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน
27.1
ให้เลิกทะเลาะกัน รักและสามัคคีกัน บ้านเมืองจะได้สงบ
17.7
ให้หันมาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศให้ดีๆ ทัดเทียมกับต่างชาติ
8.1
ให้เลิกเห็นแก่ตัวและพวกพ้องเสียที
6.9
 
 
             6. เมื่อถามถึงอนาคตว่าอยากเป็นนักการเมืองหรือไม่ เยาวชนระบุว่า ี้

 
ร้อยละ
ไม่อยากเป็น
           โดยให้เหตุผลว่า (เป็นคำถามปลายเปิดให้เยาวชนระบุเอง)
           นักการเมืองมีชื่อเสียงที่ไม่ดี มีแต่คนเกลียด ไม่โปร่งใส
           กลัวไม่ปลอดภัย ต้องรับผิดชอบคนหมู่มาก ฯลฯ
90.6
อยากเป็น
          
โดยให้เหตุว่า (เป็นคำถามปลายเปิดให้เยาวชนระบุเอง)
           จะพัฒนาประเทศให้ดีกว่านี้ อยากเป็นผู้นำที่ดีนำพาประเทศ
           ให้พ้นวิกฤติ จะทำให้การคอร์รัปชันหมดไปจากเมืองไทย
           อยากรู้ว่าแค่ทำสิ่งดีๆ ให้ประชาชนมันยากตรงไหน ฯลฯ
9.4
 
 
             7. ความคิดเห็นต่อโครงการของรัฐบาลที่เยาวชนระบุว่าได้รับประโยชน์โดยตรงมากที่สุด
                 3 อันดับแรก คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้เยาวชนระบุเอง)

 
ร้อยละ
โครงการเรียนฟรี 15 ปี
46.3
โครงการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
7.3
โครงการรถเมล์ฟรี
5.2
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากเยาวชนอายุ 15 - 25 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร  โดยการสุ่มตัวอย่าง
แบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มเขตการปกครองทั้งเขตชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน จำนวน 38 เขต
จากนั้นจึงสุ่มถนนและประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ  และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว
ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,159 คน  เป็นเพศชายร้อยละ 47.7 และเพศหญิงร้อยละ 52.3
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม
ที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form)
จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 10 - 12 กันยายน 2553
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 16 กันยายน 2553
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
553
47.7
             หญิง
606
52.3
รวม
1,159
100.0
อายุ:
 
 
             15 – 18 ปี
380
32.8
             19 – 22 ปี
418
36.1
             23 – 25 ปี
361
31.1
รวม
1,159
100.0
การศึกษา:
 
 
             มัธยมศึกษา / ปวช.
356
30.7
             อนุปริญญา / ปวส.
57
4.9
             ปริญญาตรี
592
51.2
             สูงกว่าปริญญาตรี
31
2.6
             จบการศึกษาแล้ว
123
10.6
รวม
1,159
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776