หัวข้อ   “ ประชาชนคิดอย่างไรกับการยื่นเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล
ประชาชน 42.3% อยากให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมากที่สุด
และ 61.4% เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานใดๆ หลังจบอภิปรายฯ
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 เนื่องด้วยในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปราย
ไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อประธานสภาฯ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็น ประชาชนต่อการ
ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจดังกล่าวศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้
สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,182 คน เรื่อง
"ประชาชนคิดอย่างไรกับการยื่นเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล"  ผลสำรวจพบว่า
 
                 เรื่องที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
มากที่สุดคือ เรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือก (ร้อยละ 42.3)
  เรื่องสินค้า
ราคาแพง (ร้อยละ 41.1) และเรื่องการบริหารจัดการน้ำ (ร้อยละ 30.4) ตามลำดับ
เมื่อถามว่าการอภิปรายซักฟอกในครั้งนี้ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลเด็ดที่จะนำมาซักฟอกรัฐบาล
หรือไม่   ประชาชนร้อยละ 47.4 เชื่อว่าฝ่ายค้านคงไม่มีข้อมูลเด็ด ในจำนวนนี้
24.8 เห็นข้อมูลที่จะอภิปรายคงเป็นเรื่องเดิมที่รู้กันอยู่แล้ว แต่ร้อยละ 22.6  เชื่อว่าแม้
ไม่มีข้อมูลเด็ดแต่อาจมีข้อมูลดีๆ มาอภิปรายฯ ขณะที่ร้อยละ 19.5 เชื่อว่ามีข้อมูลเด็ดๆ
แน่นอน
 
                 ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 61.4 เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานใดๆ  ภายหลัง
การอภิปรายฯ ครั้งนี้ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายฯ จะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือก็ตาม  โดยร้อยละ 18.8 ให้เหตุผลว่า
รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่านโยบายที่ทำ ดีอยู่แล้ว รองลงมาร้อยละ 15.2 บอกว่ารัฐบาลต้องทำตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน
และร้อยละ 14.1 บอกว่ารัฐบาลกลัวเสียผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะที่ร้อยละ 38.6 คิดว่ารัฐบาลคงจะมีการ
ปรับเปลี่ยนนโยบายให้รอบคอบและรัดกุมขึ้นตามข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปราย
 
                 สำหรับเรื่องที่ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้นในการอภิปรายฯ ครั้งนี้คือ การพูดจาส่อเสียด หยาบคาย
(ร้อยละ 20.9)
  การพูดนอกเรื่องและเลี่ยงไม่ตอบข้อเท็จจริง (ร้อยละ 19.8) และการไม่เคารพ/ไม่ให้เกียรติผู้ทำหน้าที่
ประธานการประชุม (ร้อยละ 14.4) ตามลำดับ
 
                  สุดท้ายเมื่อถามประชาชนว่าจะติดตามชมการอภิปรายฯที่จะมีขึ้นหรือไม่ ประชาชนร้อยละ 41.8 บอกว่า
จะติดตามชมการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นช่วงๆ เฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ
  รองลงมาร้อยละ 30.6 บอกว่าจะติดตาม
จากข่าวที่สื่อต่างๆ นำมาเสนอ และมีเพียงร้อยละ 10.2 ที่บอกว่าจะติดตามชมตลอดการอภิปรายฯ
 
                  รายละเอียดต่อไปนี้
 
 
             1. เรื่องที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากที่สุด

 
ร้อยละ
โครงการรับจำนำข้าวเปลือก
42.3
สินค้าราคาแพง
41.1
การบริหารจัดการน้ำ
30.4
การไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทที่เกาะฮ่องกง
30.3
โครงการค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
28.7
ชายชุดดำที่ปรากฏตัวในการชุมนุมทางการเมือง (เม.ย-พ.ค 53)
28.3
ภาระหนี้สินของประเทศ
26.7
โครงการแจกแท็บเล็ตพีซีเด็ก ป.1
22.7
โครงการรถยนต์คันแรก
19.8
 
 
             2. การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นนี้ ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลเด็ดมาซักฟอกรัฐบาลหรือไม่

 
ร้อยละ
คิดว่าไม่มีข้อมูลเด็ด
     ( โดย   ร้อยละ 24.8 เห็นว่าข้อมูลที่จะอภิปรายคงเป็นเรื่องเดิมที่รู้กันอยู่แล้ว
       ขณะที่ ร้อยละ 22.6 เชื่อว่าแม้ไม่มีข้อมูลเด็ดแต่ฝ่ายค้านอาจมีข้อมูลดีๆ
       มาอภิปราย )
47.4
คิดว่ามีข้อมูลเด็ดๆ แน่นอน
19.5
ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
33.1
 
 
             3. รัฐบาลจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานหรือไม่ หากข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายฯ
                 ซักฟอกมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ

 
ร้อยละ
คงจะไม่มีการปรับเปลี่ยน
โดยให้เหตุผลว่า
- เชื่อมั่นว่านโยบายที่ทำอยู่ ดีอยู่แล้ว
ร้อยละ 18.8
 
- ต้องทำตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน
ร้อยละ 15.2
 
- กลัวเสียผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง
ร้อยละ 14.1
 
- กลัวกระทบกับฐานเสียงทางการเมือง
ร้อยละ 8.0
 
- กลัวเสียหน้า/เสียชั้นเชิงทางการเมือง
  แก่ฝ่ายค้าน
ร้อยละ 5.3
61.4
คงจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้รอบคอบและรัดกุมขึ้น
38.6
 
 
             4. เรื่องที่ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้มากที่สุด 5 อันดับแรก

 
ร้อยละ
การพูดจาส่อเสียด หยาบคาย
20.9
การพูดนอกเรื่อง/เลี่ยงไม่ตอบข้อเท็จจริง
19.8
การไม่เคารพ/ไม่ให้เกียรติผู้ทำหน้าที่ประธาน
14.4
การประท้วงโดยเดินออกจากที่ประชุมสภาฯ (walk out)
12.4
การยกมือประท้วงที่มากเกินไป
12.0
 
 
             5. ความเห็นต่อการติดตามรับชมการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ที่คาดว่าจะมี
                 ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ คือ

 
ร้อยละ
จะติดตามชมเป็นช่วงๆ/เฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ
41.8
จะติดตามจากข่าวที่สื่อต่างๆ นำมาเสนอ
30.6
จะติดตามชมตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
10.2
คงไม่ติดตาม/ไม่อยากดู
17.4
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อการยื่นญัตติ
ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ในประเด็นต่างๆ อาทิ
การติดตามชมการอภิปรายฯ เรื่องที่ต้องการให้ฝ่ายค้านอภิปรายฯ รัฐบาล เรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นระหว่างการอภิปรายฯ ในสภา
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา
ประเทศต่อไป
 
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน
(Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มจังหวัดในแต่ละภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงรายเชียงใหม่ นนทบุรี
นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา มหาสารคาม สงขลาและสมุทรปราการ จากนั้นจึงสุ่มประชากร
เป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,182 คน เป็นเพศชายร้อยละ 49.9 และเพศหญิงร้อยละ 50.1
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) และการสุ่มโทรศัพท์สัมภาษณ์ โดยเครื่องมือที่ใช้
ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้น
ได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  19 - 23 ตุลาคม 2555
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 26 ตุลาคม 2555
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
590
49.9
             หญิง
592
50.1
รวม
1,182
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 25 ปี
259
21.9
             26 – 35 ปี
319
27.0
             36 – 45 ปี
300
25.4
             46 ปีขึ้นไป
304
25.7
รวม
1,182
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
735
62.2
             ปริญญาตรี
378
32.0
             สูงกว่าปริญญาตรี
69
5.8
รวม
1,182
100.0
อาชีพ:
 
 
             ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสากิจ
149
12.6
             พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน
268
22.7
             ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว
360
30.5
             รับจ้างทั่วไป
149
12.6
             เกษตรกร
63
5.3
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
54
4.6
             นักศึกษา
99
8.4
             อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น
40
3.3
รวม
1,182
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776