analyticstracking
หัวข้อ   “ ความเชื่อมั่นประเทศไทย กับการก้าวสู่ปีที่ 4 ของ คสช.
           ก้าวสู่ปีที่ 4 ในการบริหารประเทศของรัฐบาล คสช. ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพประเทศไทย
เพิ่มขึ้นเป็น 5.38 คะแนน จากเดิม 4.99 คะแนน
           โดยด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นและด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย เป็นด้านที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมากที่สุด
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็น
ประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นประเทศไทย กับการก้าวสู่ปีที่ 4 ของ คสช.” โดย
เก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,127 คน พบว่า
 
                  ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทย
เฉลี่ยในภาพรวม 5.38 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน) ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก
ผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 0.39 คะแนน
โดยมีความเชื่อมั่นด้าน
การเมืองมากที่สุด (5.67 คะแนน) รองลงมาคือด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (5.58 คะแนน) และด้านเศรษฐกิจ (4.89 คะแนน)
 
                 เมื่อแยกพิจารณาจากด้านที่ได้ความเชื่อมั่นมากที่สุดไปน้อยที่สุดพบว่า
ความเชื่อมั่นด้านการเมืองในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 5.67 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก
ผลสำรวจครั้งก่อน 0.55 คะแนน (5.12 คะแนน)
โดยตัวชี้วัดด้านการเมืองที่ประชาชน
ให้คะแนนความเชื่อมั่นมากที่สุดคือ ด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น (5.92 คะแนน)
ขณะที่ตัวชี้วันที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านการปฏิรูปการเมืองและพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตย (5.43 คะแนน)
 
                 ส่วนความเชื่อมั่นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 5.58 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก
ผลสำรวจครั้งก่อน 0.80 คะแนน (4.78 คะแนน)
โดยตัวชี้วัดด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ
ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (6.08 คะแนน) ส่วนด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านความปลอดภัยในชีวิต
และทรัพย์สินของประชาชน (5.01 คะแนน)
 
                 สำหรับความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.89 คะแนน ลดลงจากผลสำรวจ
ครั้งก่อน 0.18 คะแนน (5.07 คะแนน)
โดยตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ ด้านความสามารถแข่งขัน
กับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน (5.57 คะแนน) ส่วนด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านสถานะทางเศรษฐกิจของคน
ในประเทศ (4.01 คะแนน)
 
 
                 โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถามดังต่อไปนี้
 
             1. ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ ศักยภาพโดยรวมของประเทศไทย ในปัจจุบัน

ความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ
คะแนนความเชื่อมั่น (เต็ม 10 คะแนน)
มิ.ย.
2558
มิ.ย.
2559
มิ.ย.
2560
เปลี่ยน
แปลง
1) ด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
5.15
4.44
5.92
+1.48
2) ด้านการปฎิรูปการเมืองและพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
      (คุณภาพนักการเมือง ระบบเลือกตั้ง และการมี
       ส่วนร่วมของประชาชน)
5.36
4.88
5.43
+0.55
3) ด้านความสามารถในการบริหารประเทศ ของรัฐบาลชุด
      ปัจจุบัน/คสช.
6.16
5.73
5.68
-0.05
4) ด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากหน่วยงาน
      ภาครัฐ (ถูกต้อง เป็นกลาง และเป็นประโยชน์)
5.80
5.44
5.66
+0.22
ความเชื่อมั่นด้านการเมือง (เฉลี่ยรวม)
5.62
5.12
5.67
+0.55
5) ด้านความรักและสามัคคีของคนในชาติ
5.12
4.62
5.34
+0.72
6) ด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย
    (ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และความเท่าเทียมกัน
     ในการบังคับใช้กฎหมาย)
5.27
4.50
5.89
+1.39
7) ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5.72
5.39
6.08
+0.69
8) ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
    (โจรกรรม ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายภัยจราจร
      การปนเปื้อนในอาหาร และมลพิษ)
5.10
4.63
5.01
+0.38
ความเชื่อมั่นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (เฉลี่ยรวม)
5.30
4.78
5.58
+0.80
9) ด้านสถานะทางเศรษฐกิจของคนในประเทศ
    (รายได้เพียงพอกับรายจ่าย การมีงานทำ การกินดีอยู่)
4.95
4.71
4.01
-0.70
10) ด้านฐานะทางการเงินของประเทศ
    (เงินคงคลัง หนี้ของประเทศ ทุนสำรองระหว่างประเทศ)
4.93
4.64
4.45
-0.19
11) ด้านศักยภาพของคนไทย
    (การศึกษา/สุขภาพ/ความรู้ความสามารถ/ความซื่อสัตย์มีวินัย
     และพัฒนาได้)
5.43
5.12
5.54
+0.42
12) ด้านความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน
    (ด้านการผลิต เป็นแหล่งท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน)
6.15
5.80
5.57
-0.23
ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ (เฉลี่ยรวม)
5.37
5.07
4.89
-0.18
เฉลี่ยรวมทุกด้าน
5.43
4.99
5.38
+0.39
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์:
                 เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประเทศไทย ในด้านต่างๆ รวม 12 ด้าน
ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ในการบริหารประเทศของรัฐบาล คสช. เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคม
และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่ม
สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
เป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำ
แบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อน บันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 27-28 มิถุนายน 2560
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ:1 กรกฎาคม 2560
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
605
53.7
             หญิง
522
46.3
รวม
1,127
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
142
12.6
             31 – 40 ปี
197
17.5
             41 – 50 ปี
300
26.6
             51 – 60 ปี
298
26.4
             61 ปีขึ้นไป
190
16.9
รวม
1,127
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
719
63.8
             ปริญญาตรี
326
28.9
             สูงกว่าปริญญาตรี
82
7.3
รวม
1,127
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
150
13.3
             ลูกจ้างเอกชน
243
21.6
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
443
39.3
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
55
4.9
             ทำงานให้ครอบครัว
5
0.4
             พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ
175
15.5
             นักเรียน/ นักศึกษา
30
2.7
             ว่างงาน/ รวมกลุ่ม
26
2.3
รวม
1,127
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776