analyticstracking
Tweet
หัวข้อ
“
ปรองดองสู่เลือกตั้งหรือเลือกตั้งสู่ปรองดอง
”
จากคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ว่า“....ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือมีความ
ปรองดองเราก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า” ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.3 คิดว่าต้องการสื่อให้ประชาชน
ตระหนักถึงการร่วมมือกันสร้างความปรองดองอย่างแท้จริง
โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 54.2 ระบุว่าต้องการให้ปรองดองสำเร็จก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง ทั้งนี้
ร้อยละ 60.0 ระบุว่าหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากโรดแมปจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศ
เมื่อถามต่อว่า “หากมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอีก ภายหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น
ประชาชนมีความเห็นอย่างไร” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 40.5 มีความเห็นว่าควรยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่
ตามกระบวนการ
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
ผลคะแนนโหวต
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็น
ประชาชน เรื่อง
“ปรองดองสู่เลือกตั้งหรือเลือกตั้งสู่ปรองดอง”
โดยเก็บข้อมูลกับ
ประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,100 คน พบว่า
จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอนหนึ่งในรายการ "ศาสตร์
พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 ว่า “....ทั้งนี้เมื่อทุกอย่าง
ลงตัวกระบวนการด้านกฎหมายมีความพร้อมทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ มีความปรองดอง
เราก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า”
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.3 มีความเห็นว่า
เป็นการให้ประชาชนตระหนักถึงการร่วมมือกันสร้างความปรองดองอย่างแท้จริง
รองลงมาร้อยละ 16.3 เห็นว่าเป็นการพูดเฉยๆ ไม่ได้แฝงนัยใดๆ และร้อยละ 15.6 เห็นว่า
เป็นการบอกกลายๆว่าปีหน้าอาจไม่มีการเลือกตั้ง
ทั้งนี้เมื่อถามว่าความปรองดองคืออะไรในความเห็นของประชาชน
พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 58.4 ระบุว่า คือการจัดการกับความขัดแย้ง/ประชาชน
รักใคร่กลมเกลียวไม่แบ่งฝ่ายแบ่งสี
รองลงมาร้อยละ 48.2 คือการเคารพในกฎกติกา
ทางการเมือง/ไม่ใช้ความรุนแรง/สร้างสถานการณ์ และร้อยละ 41.6 คือการให้อภัยกัน
ในสิ่งที่เคยเกิดความขัดแย้ง
สำหรับความเหมาะสมในการจัดให้มีการเลือกตั้งตามความคิดเห็นของประชาชน พบว่าส่วนใหญ่
ร้อยละ 54.2 ระบุว่าต้องการให้ปรองดองสำเร็จก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง
ขณะที่ร้อยละ 17.3 ระบุว่าต้องการเลือกตั้ง
ก่อนแล้วค่อยปรองดองที่เหลือร้อยละ 28.5 ระบุว่าแบบใดก็ได้ขอให้ได้เลือกตั้ง
ด้านความกังวลว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองหากไม่มีการจัดการเลือกตั้งตาม
โรดแมปพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 46.6 ระบุว่าไม่กังวล
ขณะที่ร้อยละ 41.6 ระบุว่ากังวล ที่เหลือร้อยละ 11.8 ระบุว่า
ไม่แน่ใจ
ทั้งนี้หากการจัดการเลือกตั้งเลื่อนออกไปไม่เป็นไปตามโรดแมป ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 60.0
มีความเห็นว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ขณะที่ร้อยละ 40.0 มีความเห็นว่า
ส่งผลค่อนข้างน้อยถึงไม่ส่งผลเลย
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอีก ภายหลังการเลือกตั้งและจัดตั้ง
รัฐบาลเสร็จสิ้นประชาชนมีความเห็นอย่างไร” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 40.5 มีความเห็นว่าควรยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ตามกระบวนการ
รองลงมาร้อยละ 28.5 เห็นว่าควรต้องจัดการปรองดองกันอีกรอบโดยหาคนกลางเข้ามาช่วยและร้อยละ
26.5 เห็นว่าคงต้องยอมให้ทหารเข้ามาจัดการอีกครั้ง
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
1. จากคำพูดของนายกฯที่ว่า“....ทั้งนี้เมื่อทุกอย่างลงตัวกระบวนการด้านกฎหมายมีความพร้อม
ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือมีความปรองดองเราก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า”ประชาชนคิดว่า
ต้องการสื่อถึงอะไร
ร้อยละ
ให้ประชาชนตระหนักถึงการร่วมมือกันสร้างความปรองดองอย่างแท้จริง
57.3
พูดเฉยๆไม่ได้แฝงนัยใดๆ
16.3
เป็นการบอกกลายๆว่าปีหน้าอาจไม่มีการเลือกตั้ง
15.6
ไม่แน่ใจ
10.8
2. ความปรองดองคืออะไรในความเห็นของประชาชน
ร้อยละ
การจัดการกับความขัดแย้ง/ประชาชนรักใคร่กลมเกลียวไม่แบ่งฝ่ายแบ่งสี
58.4
เคารพในกฎกติกาทางการเมือง/ไม่ใช้ความรุนแรง/สร้างสถานการณ์
48.2
การให้อภัยกันในสิ่งที่เคยเกิดความขัดแย้ง
41.6
ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงความจริงที่จะนำไปสู่ความเข้าใจ
41.4
เยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากความขัดแย้ง
22.9
3. ความเหมาะสมในการจัดให้มีการเลือกตั้งตามความคิดเห็นของประชาชน
ร้อยละ
ปรองดองสำเร็จก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง
54.2
เลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปรองดอง
17.3
แบบใดก็ได้ขอให้ได้เลือกตั้ง
28.5
4. เมื่อถามว่า “กังวลหรือไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองหากไม่มีการจัดการเลือกตั้ง
ตามโรดแมป”
ร้อยละ
ไม่กังวล
46.6
กังวล
41.6
ไม่แน่ใจ
11.8
5. หากการจัดการเลือกตั้งเลื่อนออกไปไม่เป็นไปตามโรดแมปจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น
ของประเทศไทยหรือไม่
ร้อยละ
ส่งผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็นส่งผลค่อนข้างมาก ร้อยละ 40.2 และส่งผลมากที่สุด ร้อยละ 19.8 )
60.0
ส่งผลค่อนข้างน้อยถึงไม่ส่งผลเลย
(โดยแบ่งเป็นส่งผลค่อนข้างน้อย ร้อยละ 23.1 และไม่ส่งผลเลย ร้อยละ 16.9 )
40.0
6. หากมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอีกภายหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น
ประชาชนมีความเห็นอย่างไร
ร้อยละ
ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามกระบวนการ
40.5
จัดการปรองดองกันอีกรอบโดยหาคนกลางมาช่วย
28.5
ยอมให้ทหารเข้ามาจัดการอีกครั้ง
26.5
ไม่แน่ใจ
4.5
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ
:
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับความปรองดองและจัดให้มีการเลือกตั้งในแง่มุมต่างๆ
อาทิเช่น ความปรองดองในความเข้าใจของประชาชน ความเหมาะสมในการจัดให้มีการเลือกตั้ง ตลอดจนความกังวล
และผลกระทบหากการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามโรดแมป เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคม
และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ประชากรที่สนใจศึกษา
:
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์
ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วง
น้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
:
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน
4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
เป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำ
แบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล
:
: 19-21 กันยายน 2560
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ:
23 กันยายน 2560
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
ชาย
542
49.3
หญิง
558
50.7
รวม
1,100
100.0
อายุ:
18 – 30 ปี
143
13.0
31 – 40 ปี
244
22.2
41 – 50 ปี
285
25.9
51 – 60 ปี
265
24.1
61 ปีขึ้นไป
163
14.8
รวม
1,100
100.0
การศึกษา:
ต่ำกว่าปริญญาตรี
671
61.0
ปริญญาตรี
361
32.8
สูงกว่าปริญญาตรี
68
6.2
รวม
1,100
100.0
อาชีพ:
ลูกจ้างรัฐบาล
142
12.9
ลูกจ้างเอกชน
264
24.0
ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
430
39.1
เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
55
5.0
ทำงานให้ครอบครัว
3
0.3
พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
154
14.0
นักเรียน/ นักศึกษา
40
3.6
ว่างงาน/ รวมกลุ่ม
12
1.1
รวม
1,100
100.0
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่
Download PDF file:
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776
Email:
bangkokpoll@bu.ac.th
Website:
http://bangkokpoll.bu.ac.th
Twitter:
http://twitter.com/bangkok_poll
Facebook:
www.facebook.com/bangkokpoll
ผลสำรวจเรื่องอื่นๆ