analyticstracking
Tweet
หัวข้อ
“
ความเห็นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมในการเอาผิดผู้กระทำความผิด
”
ประชาชน 64.2% เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมจะไม่สามารถเอาผิดผู้กระทำผิดในคดีเปรมชัยล่าสัตว์ทุ่งป่าใหญ่ฯ
มาลงโทษได้ ทั้งนี้ส่วนใหญ่ระบุว่ากระบวนการยุติธรรมมีช่องโหว่ให้ผู้กระทำผิดพ้นผิด
โดย 71.7 % ไม่ค่อยเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ในการเอาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
61.3% เห็นว่ากระแสโซเชียลและสื่อมวลชนจะช่วยตรวจสอบอีกด้านทำให้สังคมได้รู้โดยละเอียด
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
ผลคะแนนโหวต
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจ
ความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเห็นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม
ในการเอาผิดผู้กระทำความผิด” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่ว
ประเทศจำนวน 1,202 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 64.2 เห็นว่าคดีเปรมชัย
ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรจะไม่สามารถเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้
รองลงมา
คือ คดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจตาย (ร้อยละ 53.3) และคดีวัดธรรมกาย พระธัมมชโย
(ร้อยละ 50.4)
เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์หรือคดีที่ผ่านมาคิดว่าคนกลุ่มใดเมื่อทำ
ความผิดแล้วกระบวนการยุติธรรมยากที่จะเอาผิดพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.2
เห็นว่าเป็นกลุ่ม ผู้มีอิทธิพล
รองลงมาคือ นักการเมือง (ร้อยละ 63.6) คนรวย ไฮโซ
(ร้อยละ 61.5) ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร (ร้อยละ 45.2) และพระ (ร้อยละ 21.1)
สำหรับความเห็นต่อการดำเนินการของกระบวนการยุติธรรมพบว่า
ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.6 เห็นว่ามีช่องโหว่ให้ผู้กระทำผิดพ้นผิด
รองลงร้อยละ 28.6
เห็นว่าดำเนินการแบบ 2 มาตรฐานเลือกปฏิบัติ และร้อยละ 23.6 เห็นว่าการลงโทษ
ผู้กระทำผิดยังเบาไป ไม่รุนแรง ทำให้ไม่เกรงกลัว กลับมาทำผิดอีก
ทั้งนี้เมื่อถามว่าเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมในการเอาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีมากน้อย
เพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.7 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
ขณะที่ร้อยละ 28.3 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
นอกจากนี้เมื่อถามความเห็นต่อกระแสโซเชียลและสื่อมวลชนที่มาช่วยตรวจสอบและตีแผ่เหตุการณ์
หรือคดีต่างๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.3 เห็นว่าจะช่วยตรวจสอบอีกด้านทำให้สังคมรู้
โดยละเอียด
รองลงมาร้อยละ 57.4 เห็นว่าจะทำให้คดีคืบหน้าเร็ว จับตัวคนผิดได้เร็ว และร้อยละ 54.8 เห็นว่าจะมีส่วนทำให้
ตำรวจต้องจริงจังในการทำงานหาหลักฐานเพื่อปิดคดีให้ได้เร็ว
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
1. ข้อคำถาม “ท่านคิดว่าเหตุการณ์หรือคดีความใด ที่กระบวนการยุติธรรมจะไม่สามารถ
เอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้”
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ร้อยละ
คดีเปรมชัยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
64.2
คดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจตาย
53.3
คดีวัดธรรมกาย พระธัมมชโย
50.4
คดีน้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร
49.0
คดีจำนำข้าว น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
46.2
คดีทุจริต ทักษิณ ชินวัตร
38.2
2. ข้อคำถาม “จากเหตุการณ์หรือคดีที่ผ่านมา ท่านคิดว่าคนกลุ่มใดเมื่อทำความผิดแล้ว
กระบวนการยุติธรรมยากที่จะเอาผิด”
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ร้อยละ
กลุ่มผู้มีอิทธิพล
69.2
นักการเมือง
63.6
คนรวย ไฮโซ
61.5
ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร
45.2
พระ
21.1
3. ความเห็นต่อการดำเนินการของกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไร
ร้อยละ
มีช่องโหว่ให้ผู้กระทำผิดพ้นผิด
37.6
ดำเนินการแบบ 2 มาตรฐานเลือกปฏิบัติ
28.6
การลงโทษผู้กระทำผิดยังเบาไป ไม่รุนแรง ทำให้ไม่เกรงกลัว กลับมาทำผิดอีก
23.6
ดำเนินการด้วยความยุติธรรม โปร่งใสกับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกระดับ
5.7
มีการจับแพะรับผิดแทน
4.5
4. ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมในการเอาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ร้อยละ
ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็นค่อนข้างน้อยร้อยละ 36.3 และน้อยที่สุดร้อยละ 35.4)
71.7
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็นค่อนข้างมากร้อยละ 22.3 และมากที่สุดร้อยละ 6.0)
28.3
5. ความเห็นต่อกระแสโซเชียลและสื่อมวลชนที่มาช่วยตรวจสอบและตีแผ่เหตุการณ์หรือคดีต่างๆ
ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม”
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ร้อยละ
จะช่วยตรวจสอบอีกด้านทำให้สังคมรู้โดยละเอียด
61.3
จะทำให้คดีคืบหน้าเร็ว จับตัวคนผิดได้เร็ว
57.4
จะมีส่วนทำให้ตำรวจต้องจริงจังในการทำงานหาหลักฐานเพื่อปิดคดีให้ได้เร็ว
54.8
จะสร้างทางเลือกให้ประชาชนติดตามคดี
50.1
จะทำให้มีการกระพือข่าวเกินจริง อาจทำให้เสียรูปคดี
34.6
จะทำให้บุคคลกลายเป็นจำเลยสังคมทั้งที่ยังไม่โดนตัดสิน
38.8
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ
:
1) เพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์หรือคดีความที่ติดตามอยู่และคิดว่ากระบวนการยุติธรรมละเลยการเอาผิด
แก่ผู้กระทำความผิด
2) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อการดำเนินการของกระบวนการยุติธรรม และความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม
ในการเอาผิดต่อผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
3) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อกระแสโซเชียลและสื่อมวลชนที่มาช่วยตรวจสอบและตีแผ่เหตุการณ์หรือคดีต่างๆ
ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ประชากรที่สนใจศึกษา
:
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์
ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
:
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน
3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล
:
: 13 – 15 กุมภาพันธ์ 2561
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ:
18 กุมภาพันธ์ 2561
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
ชาย
663
55.2
หญิง
539
44.8
รวม
1,202
100.0
อายุ:
18 – 30 ปี
128
10.6
31 – 40 ปี
233
19.4
41 – 50 ปี
363
30.2
51 – 60 ปี
298
24.8
61 ปีขึ้นไป
180
15.0
รวม
1,202
100.0
การศึกษา:
ต่ำกว่าปริญญาตรี
728
60.6
ปริญญาตรี
366
30.4
สูงกว่าปริญญาตรี
108
9.0
รวม
1,202
100.0
อาชีพ:
ลูกจ้างรัฐบาล
149
12.4
ลูกจ้างเอกชน
297
24.7
ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
451
37.4
เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
62
5.2
ทำงานให้ครอบครัว
6
0.5
พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
210
17.5
นักเรียน/ นักศึกษา
25
2.1
ว่างงาน/ รวมกลุ่ม
2
0.2
รวม
1,202
100.0
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่
Download PDF file:
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776
Email:
bangkokpoll@bu.ac.th
Website:
http://bangkokpoll.bu.ac.th
Twitter:
http://twitter.com/bangkok_poll
Facebook:
www.facebook.com/bangkokpoll
ผลสำรวจเรื่องอื่นๆ