|
หัวข้อ : "ประชาชนคิดอย่างไรกับการขายหุ้นของตระกูลชินวัตร" |
|
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ :. |
|
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกี่ยวกับกรณีการขายหุ้นในเครือ บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น
(ชินคอร์ป)
ของตระกูลชินวัตร ให้บริษัทเทมาเส็ก จากประเทศสิงคโปร์ในประเด็นต่อไปนี้
1. คิดว่าการขายหุ้นในเครือชินคอร์ปให้บริษัทเทมาเส็กเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่
2. ประเด็นที่ประชาชนสนใจมากที่สุดจากข่าวการขายหุ้นของชินคอร์ปคืออะไร
3. ประชาชนเชื่อถือคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่าการขายหุ้นเป็นการตัดสินใจของลูก ๆ ที่ต้องการให้พ่อได้ทำงานเพื่อ
ประเทศชาติอย่างเต็มที่หรือไม่
4. การขายหุ้นดังกล่าวจะทำให้ภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนได้หรือไม่
5. การแก้กฎหมายให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ไม่เกิน 49% จากเดิมไม่เกิน 25% เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์
ในการขายหุ้น
ของบริษัทชินคอร์ปหรือไม่
6. เหมาะสมหรือไม่ที่จะให้ต่างชาติถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ 49%
7. ควรแก้กฎหมายเพื่อให้มีการเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นหรือไม่
8. ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้เป็นอย่างไร
|
|
ระเบียบวิธีการสำรวจ : |
|
การสุ่มตัวอย่าง |
|
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุตั้งแต่ 22 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ
หลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดย การสุ่มเขตการปกครอง จากนั้น สุ่มถนน และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ ได้กลุ่มตัวอย่าง
ทั้งสิ้นจำนวน 1,368 คน เป็นชายร้อยละ 45.8 และหญิงร้อยละ 54.2
กลุ่มตัวอย่างมีอายุ 22-35 ปีร้อยละ 60.2 อายุ 36-45 ปีร้อยละ 24.7 และอายุ 46 ปีขึ้นไปร้อยละ 15.1
กลุ่มตัวอย่างมีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีร้อยละ 41.1 ปริญญาตรีร้อยละ 50.6 และสูงกว่าปริญญาตรีร้อยละ 8.3
กลุ่มตัวอย่างประกอบอาชีพรับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจร้อยละ 7.5 พนักงานลูกจ้างบริษัทเอกชนร้อยละ 48.7 ค้าขายและ
ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 22.7 รับจ้างทั่วไปร้อยละ 8.2 พ่อบ้าน แม่บ้าน และเกษียณอายุร้อยละ 5.1 และอื่นๆ ร้อยละ 7.8 |
|
ความคลาดเคลื่อน
(Margin of Error) : ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน
+- 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% |
|
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
: .
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้ |
|
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล
: 24 มกราคม 2549 |
|
วันที่เผยแพร่ข้อมูล
: . 25 มกราคม 2549 |
|
สำรวจโดย
: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 0-2350-3500
ต่อ 1776 |
|
ผลการสำรวจ : |
|
1.
ความคิดเห็นต่อคำถามที่ว่าคิดว่าการขายหุ้นในเครือชินคอร์ปของตระกูลชินวัตรให้กับบริษัทเทมาเส็กจาก ประเทศสิงคโปร์เป็นไป
อย่างโปร่งใสหรือไม่ ร้อยละ 51.4 เชื่อว่าไม่โปร่งใส ร้อยละ 34.1 ไม่แน่ใจ ขณะที่ร้อยละ 14.5 เชื่อว่าโปร่งใส
|
|
2. ประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดจากการขายหุ้นชินคอร์ป อันดับแรกร้อยละ 33.6 สนใจประเด็นเรื่องการแก้กฎหมาย
เพื่อเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ไม่เกิน 49% จากเดิมไม่เกิน 25% รองลงมาร้อยละ 30.7 สนใจประเด็นที่
ตระกูลชินวัตรไม่ต้องจ่ายภาษีจากการขายหุ้น ร้อยละ 13.6 สนใจจำนวนเงินที่ตระกูลชินวัตรได้รับจากการขายหุ้น ร้อยละ 12.9 สนใจธุรกิจ
ตัวใหม่ที่ตระกูลชินวัตรจะนำเงินจากการขายหุ้นไปลงทุน ร้อยละ 2.2 สนใจประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ขณะที่ร้อยละ 7.0 ไม่ได้สนใจ
ประเด็นใดเป็นพิเศษ |
|
3.
ความเชื่อถือคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ว่าการขายหุ้นชินคอร์ปเป็นการตัดสินใจของลูก ๆ ที่ต้องการให้พ่อ
ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่โดยไม่ถูกกล่าวหาเรื่องการมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น ร้อยละ 84.5 ไม่เชื่อถือในคำพูดดังกล่าว มีเพียง
ร้อยละ 15.5 ที่เชื่อถือ |
|
4.
เมื่อถามว่าการขายหุ้นชินคอร์ปจะทำให้ภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนได้หรือไม่
ร้อยละ 81.4 เชื่อว่าไม่ได้ ขณะที่ร้อยละ 18.6 เชื่อว่าได้
|
|
5.
สำหรับประเด็นเรื่องการแก้กฎหมายให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ไม่เกิน 49% จากเดิมไม่เกิน 25% นั้น
ร้อยละ 62.9 เชื่อว่าการแก้กฎหมายดังกล่าวเป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับการขายหุ้นชินคอร์ป ขณะที่ร้อยละ 14.6 เชื่อว่าไม่ใช่ และ ร้อยละ
22.5 ไม่แน่ใจ |
|
6. ร้อยละ 90.6 เห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ถึง 49% มีเพียงร้อยละ 9.4
ที่เห็นว่าเหมาะสม |
|
7.
ส่วนการแก้กฎหมายให้มีการเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นนั้น ร้อยละ 65.9 เห็นว่าควรให้มีการเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้น ขณะที่
ร้อยละ 15.5 เห็นว่าไม่ควร และร้อยละ 18.6 ไม่แน่ใจ |
|
8.
ส่วนความรู้สึกของประชานที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ร้อยละ 50.3 มีความรู้สึกในทางที่ไม่ดี อาทิ เป็นนัก
สร้างภาพ และทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 10.7 มีความรู้สึกในทางที่ดี อาทิ กล้าคิดกล้าตัดสินใจ และพูดจริง
ทำจริง
ร้อยละ 10.7 มีความรู้สึกทั้งในทางที่ดีและไม่ดีปนกัน เช่น ปากไวใจกล้า ส่วนอีกร้อยละ 28.3 ไม่แสดงความเห็น |
|
|
|
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล |
|
|
|
|
|
ตารางที่ 1 : ข้อมูลประชากรศาสตร์
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เพศ : |
ชาย |
626 |
45.8 |
หญิง |
742 |
54.2 |
อายุ : |
22 – 35 ปี |
824 |
60.2 |
36 – 45 ปี |
338 |
24.7 |
46 ปีขึ้นไป |
206 |
15.1 |
การศึกษา : |
ต่ำกว่าปริญญาตรี |
562 |
41.1 |
ปริญญาตรี |
692 |
50.6 |
สูงกว่าปริญญาตรี |
114 |
8.3 |
อาชีพ : |
ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ |
102 |
7.5 |
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน |
666 |
48.7 |
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว |
310 |
22.7 |
รับจ้างทั่วไป |
112 |
8.2 |
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ |
70 |
5.1 |
อื่น ๆ |
108 |
7.8 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 2: การขายหุ้นในเครือชินคอร์ปให้บริษัทเทมาเส็กของประเทศสิงคโปร์เป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
โปร่งใส |
198 |
14.5 |
ไม่โปร่งใส |
704 |
51.4 |
ไม่แน่ใจ |
466 |
34.1 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 3: ประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดในการขายหุ้นชินคอร์ปของตระกูลชินวัตร
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
การแก้กฎหมายเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสาร
โทรคมนาคมได้ไม่เกิน 49% จากเดิมไม่เกิน 25% |
460 |
33.6 |
การที่ตระกูลชินวัตรไม่ต้องจ่ายภาษีจากการขายหุ้น |
420 |
30.7 |
จำนวนเงินที่ตระกูลชินวัตรได้รับจากการขายหุ้น |
186 |
13.6 |
ธุรกิจตัวใหม่ที่ตระกูลชินวัตรจะนำเงินจากการขายหุ้นไปลงทุน |
176 |
12.9 |
อื่น ๆ |
30 |
2.2 |
ไม่ได้สนใจประเด็นใดเป็นพิเศษ |
96 |
7.0 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 4: ความเชื่อถือคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่าการขายหุ้นชินคอร์ปเป็นการตัดสินใจของลูก ๆ
ที่ต้องการให้พ่อได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เชื่อ |
212 |
15.5 |
ไม่เชื่อ |
1,156 |
84.5 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 5: การขายหุ้นดังกล่าวจะทำให้ภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นจากเรื่องผลประโยชน์
ทับซ้อนได้หรือไม่
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
ได้ |
254 |
18.6 |
ไม่ได้ |
1,114 |
81.4 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 6: การแก้กฎหมายให้ต่างชาติสามารถเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ไม่เกิน 49% จากเดิม
ไม่เกิน 25% เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับการขายหุ้นชินคอร์ปใช่หรือไม่
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
ใช่ |
860 |
62.9 |
ไม่ใช่ |
200 |
14.6 |
ไม่แน่ใจ |
308 |
22.5 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 7: เป็นการเหมาะสมหรือไม่ที่จะให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้ 49%
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เหมาะสม |
126 |
9.4 |
ไม่เหมาะสม |
1,242 |
90.6 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 8: ควรแก้กฎหมายเพื่อให้มีการเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นหรือไม่
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
ควร |
902 |
65.9 |
ไม่ควร |
212 |
15.5 |
ไม่แน่ใจ |
254 |
18.6 |
|
|
|
|
|
|
ตารางที่ 9: ความรู้สึกที่ประชาชนมีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบแบบสอบถามระบุเอง)
|
|
|
|
จำนวน |
ร้อยละ |
เป็นความรู้สึกในทางที่ดี เช่น
- พูดจริงทำจริง
- กล้าคิดกล้าตัดสินใจ |
146 |
10.7 |
เป็นความรู้สึกในทางที่ไม่ดี เช่น
- เป็นนักสร้างภาพ
- ทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ |
688 |
50.3 |
เป็นความรู้สึกทั้งในทางที่ดีและไม่ดีปนกัน เช่น
- ปากไวใจกล้า |
146 |
10.7 |
ไม่แสดงความเห็น |
388 |
28.3 |
|
|
|
|
สามารถทำการ
Vote ได้วันละ 1 ครั้ง |
Connect to DB
Download
document file : ( ประชาชนคิดอย่างไรกับการขายหุ้นของตระกูลชินวัตร ) |
|
|
โทร. 0-2350-3500 ต่อ
1776
|
|