หัวข้อ   “ความในใจที่มีต่อกันระหว่างแม่และลูกวัยรุ่น”
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจพบว่าโอกาสวันแม่ปีนี้สิ่งที่ลูกวัยรุ่นตั้งใจจะทำ
ให้แม่มากที่สุดอันดับแรกคือจะนำดอกมะลิ พวงมาลัยไปกราบแม่ (ร้อยละ 23.5)  รองลงมาคือให้เวลาอยู่กับแม่ พาแม่
ไปเที่ยว พาไปทานข้าว (ร้อยละ 14.8)   และบอกรักแม่ กอดแม่ หอมแม่ (ร้อยละ 14.6)   ส่วนในมุมมองของผู้เป็นแม่นั้น
ของขวัญวันแม่ที่อยากได้จากลูกมากที่สุดอันดับแรกคือให้ลูกเป็นคนดีของสังคม (ร้อยละ 43.8)   รองลงมาคือให้เชื่อฟัง
คำสั่งสอนของแม่ (ร้อยละ 17.8)   และตั้งใจเรียนหนังสือ (ร้อยละ 14.8)

                 เมื่อสอบถามความรู้สึกของแม่ที่มีต่อลูก พบว่า เรื่องที่ลูกทำให้แม่ดีใจ ปลื้มใจมากที่สุดคือ การที่ลูกตั้งใจ
เรียนหนังสือ ไม่หนีเรียน (ร้อยละ33.3)   ส่วนเรื่องที่ลูกทำให้เสียใจและทุกข์ใจมากที่สุดคือ การที่ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟังแม่
เถียงแม่ และพูดจาก้าวร้าวกับแม่ (ร้อยละ 40.0)   และความรู้สึกของแม่เมื่อต้องเฆี่ยนตีหรือทำโทษลูกคือรู้สึกเสียใจ
มากที่สุด (ร้อยละ 55.1)

                 ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบความรู้สึกของลูกที่มีต่อแม่ พบว่า เรื่องที่แม่ทำให้ลูกดีใจปลื้มใจมากที่สุดคือ การที่
แม่แสดงออกถึงความรักโดยการกอด หอม ดูแลเอาใจใส่ให้ความอบอุ่น (ร้อยละ 28.7)   ส่วนเรื่องที่แม่ทำให้รู้สึกเสียใจ
ทุกข์ใจมากที่สุดคือ การถูกแม่ดุด่า ต่อว่า ตำหนิ จู้จี้ ขี้บ่น (ร้อยละ 31.7)   และความรู้สึกของลูกเมื่อถูกแม่เฆี่ยนตีหรือ
ทำโทษคือรู้สึกเสียใจ น้อยใจมากที่สุด (ร้อยละ 39.8)

                 สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงและวิตกกังวลมากที่สุดจากสภาพสังคมในปัจจุบัน พบว่า แม่เป็นห่วงลูกในเรื่อง
ยาเสพติดมากที่สุด (ร้อยละ 44.8)   รองลงมาคือการคบเพื่อนไม่ดี (ร้อยละ 44.6)  และภัยจากอินเทอร์เน็ต (ร้อยละ 31.4)
ในขณะที่ลูกเป็นห่วงแม่มากที่สุดในเรื่องปัญหาสุขภาพ (ร้อยละ 81.2)   รองลงมาคือการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย
(ร้อยละ 59.5)   และห่วงเรื่องแม่เครียดและคิดมาก (ร้อยละ 45.3)

                 โปรดพิจารณารายละเอียดใน รายละเอียดต่อไปนี้
 
             1. สิ่งที่ตั้งใจจะให้เป็นของขวัญในวันแม่ปีนี้   (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเอง)

ของขวัญที่แม่อยากได้จากลูกมากที่สุด
3 อันดับแรก
ของขวัญที่ลูกอยากให้แม่มากที่สุด
3 อันดับแรก
อันดับที่ 1   ให้ลูกเป็นคนดีของ
                 สังคม
ร้อยละ 43.8
อันดับที่ 1   นำดอกมะลิ
                พวงมาลัย
                ไปกราบแม่
ร้อยละ 23.5
อันดับที่ 2    เชื่อฟังคำสั่งสอน
                ของแม่ ไม่ดื้อ
ร้อยละ 17.8
อันดับที่ 2    ให้เวลากับแม่                 พาไปเที่ยว ทานข้าว
ร้อยละ 14.8
อันดับที่ 3    ตั้งใจเรียนหนังสือ
ร้อยละ 14.8
อันดับที่ 3    บอกรักแม่ กอด
                และ หอมแม่
ร้อยละ 14.6
 
 
             2. เปรียบเทียบการกระทำของแม่และลูกที่ทำให้อีกฝ่ายดีใจ สุขใจ หรือปลื้มใจ มากที่สุด
                 (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเอง)


การกระทำของลูกที่ทำให้แม่ดีใจมากที่สุด
3 อันดับแรก
การกระทำของแม่ที่ทำให้ลูกดีใจมากที่สุด
3 อันดับแรก
อันดับที่ 1   ลูกตั้งใจเรียน
                หนังสือ ไม่หนีเรียน
ร้อยละ 33.3
อันดับที่ 1   แม่แสดงออกถึง
                ความรัก กอด หอม
                ดูแลเอาใจใส่ให้
                ความอบอุ่น
ร้อยละ 28.7
อันดับที่ 2    เป็นเด็กดี ไม่เกเร
                เชื่อฟังคำสั่งสอน
                ของแม่
ร้อยละ 23.9
อันดับที่ 2    เป็นที่ปรึกษายาม
                ทุกข์ใจ ให้กำลังใจ
                และช่วยเหลือ
ร้อยละ 15.5
อันดับที่ 3    ลูกเรียนเก่ง ได้เกรดดี
ร้อยละ 15.4
อันดับที่ 3    แม่ตามใจ ซื้อของให้
ร้อยละ 12.4
 
 
             3. เปรียบเทียบการกระทำของแม่และลูกที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือทุกข์ใจมากที่สุด  
                 (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเอง)


การกระทำของลูกที่ทำให้แม่เสียใจหรือทุกข์ใจ
มากที่สุด 3 อันดับแรก
การกระทำของแม่ที่ทำให้ลูกเสียใจหรือทุกข์ใจ
มากที่สุด 3 อันดับแรก
อันดับที่ 1   ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟัง
                แม่ ชอบเถียง
                ต่อปากต่อคำ และ
                พูดจาก้าวร้าวกับแม่
ร้อยละ 40.0
อันดับที่ 1   แม่ดุ ต่อว่า ตำหน
ิ                จู้จี้ ขี้บ่น
ร้อยละ 31.7
อันดับที่ 2    ลูกไม่สนใจการเรียน
                หนีเรียน
ร้อยละ 16.4
อันดับที่ 2    แม่ไม่เข้าใจ
                ไม่ฟังเหตุผล มองลูก
                ในแง่ลบ
ร้อยละ 14.9
อันดับที่ 3    ลูกติดเกม
ร้อยละ  6.1
อันดับที่ 3    แม่ทำงานหนัก
                ไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง่
ร้อยละ  6.4
 
 
             4. เมื่อเปรียบเทียบความรู้สึกต่อการเฆี่ยนตี หรือการทำโทษลูก พบว่า

ความรู้สึกของแม่ที่ต้องเฆี่ยนตี หรือลงโทษลูก
3 อันดับแรก
ความรู้สึกของลูกที่ถูกแม่เฆี่ยนตี ลงโทษ
3 อันดับแรก
อันดับที่ 1   รู้สึกเสียใจ
ร้อยละ 55.1
อันดับที่ 1   รู้สึกเสียใจ น้อยใจ
ร้อยละ 39.8
อันดับที่ 2    รู้สึกสงสารลูก
ร้อยละ 14.4
อันดับที่ 2    ยอมรับและเข้าใจ
ร้อยละ 37.4
อันดับที่ 3    รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำ
                หน้าที่แม่
ร้อยละ  5.5
อันดับที่ 3    รู้สึกเฉยๆ
ร้อยละ  8.7
 
 
             5. เปรียบเทียบความรู้สึกระหว่างแม่กับลูกวัยรุ่นต่อการที่แม่ให้เวลาในการพูดคุย ให้คำปรึกษา
                 หรือทำกิจกรรมร่วมกับลูกในทุกวันนี้


ความรู้สึกของแม่
ความรู้สึกของลูก
เห็นว่าแม่ให้เวลากับลูกอย่าง
เพียงพอ
ร้อยละ 72.1
เห็นว่าแม่ให้เวลากับลูกอย่าง
เพียงพอ
ร้อยละ 84.1
เห็นว่าไม่เพียงพอ
     ( โดยให้เหตุผลว่าต้องทำงาน
       เวลาไม่ตรงกัน ลูกอยู่หอพัก
       ลูกติดเพื่อน ฯลฯ )
ร้อยละ 27.9
เห็นว่าไม่เพียงพอ
     ( โดยให้เหตุผลว่า เวลา
       ไม่ตรงกัน กลับบ้านดึก
       ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฯลฯ )
ร้อยละ 15.9
 
 
             6. เปรียบเทียบความคิดเห็นต่อเรื่องที่เป็นห่วง หรือ วิตกกังวลมากที่สุด จากสภาพสังคมในปัจจุบัน
                (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)


เรื่องที่แม่เป็นห่วงลูกมากที่สุด
3 อันดับแรก
เรื่องที่ลูกเป็นห่วงแม่มากที่สุด
3 อันดับแรก
อันดับที่ 1   เรื่องยาเสพติด
ร้อยละ 44.8
อันดับที่ 1   ปัญหาสุขภาพ
ร้อยละ 81.2
อันดับที่ 2    คบเพื่อนไม่ดี
ร้อยละ 44.6
อันดับที่ 2    ทำงานหนัก
                พักผ่อนน้อย
ร้อยละ 59.5
อันดับที่ 3    ภัยจากอินเทอร์เน็ต
ร้อยละ 31.4
อันดับที่ 3    แม่เครียด คิดมาก
ร้อยละ 45.3
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นของแม่และลูกที่เป็นวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร  เกี่ยวกับความใจในที่อยากบอก
ซึ่งกันและกันในโอกาสวันแม่ที่จะมาถึงในปีนี้   เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของทั้งสองฝ่าย  ตลอดจนให้สังคมและผู้ที่
เกี่ยวข้องได้รับทราบ  และนำไปใช้เป็นแนวทางในการเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่และลูกวัยรุ่น
ต่อไป
 
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงอายุ 15-25 ปี และวัยรุ่นอายุ 15 - 25 ปีที่อาศัยอยู่ใน
กรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling)   โดยสุ่มจากเขตการปกครอง
ทั้งเขตชั้นใน  ชั้นกลาง  และชั้นนอก  จำนวนทั้งสิ้น 30 เขต  ได้แก่ เขตคลองเตย คลองสาน จตุจักร ดอนเมือง ดินแดง
ทุ่งครุ ธนบุรี บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางกะปิ บางขุนเทียน บางคอแหลม บางแค บางนา บางบอน บางรัก บึงกุ่ม
ปทุมวัน พระโขนง มีนบุรี ยานนาวา ราชเทวี ลาดพร้าว วังทองหลาง วัฒนา สวนหลวง สาทร หนองจอก หลักสี่ และ
ห้วยขวาง จากนั้นจึงสุ่มถนน และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,013 คน
เป็นแม่ร้อยละ 42.7  และลูกร้อยละ 57.3
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview)  โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบ
สอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน   ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal)  และคำถามปลายเปิดให้
ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึก
ข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 6 - 8 สิงหาคม 2553
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 10 สิงหาคม 2553
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
สถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง:    
             เป็นแม่ (ที่มีลูกอายุ 15 - 25 ปี)
433
42.7
             เป็นลูก (อายุ 15 - 25 ปี)
580
57.3
รวม
1,013
100.0
อายุลูก:
 
 
             15 – 18 ปี
203
34.9
             19 – 22 ปี
203
34.9
             23 – 25 ปี
174
30.2
รวม
580
100.0
 
Vote:  ดีมาก(5) ดี (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) แย่ (1)  
 ผลคะแนนVote              
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776