หัวข้อ   “ประชาชนคิดอย่างไรกับมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม”
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็น
ประชาชนจากทั่วประเทศพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 เห็นด้วยกับมาตรการ
ต่างๆ ของรัฐบาลในการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการขยายเวลา
ชำระหนี้ และจำหน่ายหนี้สูญในกรณีลูกหนี้เสียชีวิตจากน้ำท่วม  อย่างไรก็ตามประชาชน
ถึงร้อยละ 67.7 ยังไม่มั่นใจว่าความช่วยเหลือจากรัฐบาล จะสามารถไปถึงมือผู้ประสบภัย
อย่างครบถ้วนและทั่วถึง
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
 
                 ทั้งนี้ ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจการทำงานของรัฐบาลในการป้องกัน
และแก้ปัญหาผู้ประสบภัยน้ำท่วมเฉลี่ย 5.45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน  โดยให้
คะแนนในด้านมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยได้มากที่สุด
( 6.22 คะแนน)  ในขณะที่ให้คะแนนด้านการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยน้ำท่วมน้อยที่สุด
( 5.07 คะแนน)
 
                 ส่วนเรื่องที่ประชาชนเป็นห่วงและกังวลใจมากที่สุดหลังน้ำลด คือ ห่วงเรื่อง
การทุจริตคอร์รัปชันเงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการฟื้นฟูบูรณะ (ร้อยละ 32.6)
รองลงมาห่วงเรื่องโรคระบาด(ร้อยละ 26.7 )  และห่วงเรื่องความล่าช้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือ และขั้นตอนที่ยุ่งยาก
ซับซ้อน (ร้อยละ 24.2)
 
                 สำหรับแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคตที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ  ให้เร่งปลูกป่า
และรักษาสิ่งแวดล้อม(ร้อยละ 33.0)  รองลงมาคือให้ปรับปรุงระบบชลประทานเพื่อกักเก็บและระบายน้ำให้ดีขึ้น
(ร้อยละ 31.7)
   
                 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
             1. ความคิดเห็นที่มีต่อมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม

 
เห็นด้วย
(ร้อยละ)
ไม่เห็นด้วย
(ร้อยละ)
ให้ ธ.ก.ส. ขยายเวลาชำระหนี้ และจำหน่ายหนี้สูญ
ในกรณีที่ลูกหนี้เสียชีวิตจากน้ำท่วม
95.0
5.0
ผู้ที่บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถนำมา
หักลดหย่อนภาษีได้ และผู้ประสบภัยได้ลดหย่อนภาษี
เท่าจำนวนความเสียหาย
90.7
9.3
โยกงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งของแต่ละกระทรวง
มาใช้ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม
87.5
12.5
การจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากจากภัยน้ำท่วม
ครัวเรือนละ 5,000 บาท
82.0
18.0
การจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายใน
อัตรา 55% ของต้นทุน
79.1
20.9
ใช้วิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านธนาคารออมสิน
78.8
21.2
การจ่ายเงินชดเชยให้บ้านที่เสียหายทั้งหลัง 30,000 บาท
เสียหายบางส่วน 20,000 บาท
76.6
23.4
 
 
             2. ความมั่นใจว่าความช่วยเหลือจากรัฐบาล จะสามารถไปถึงมือผู้ที่ประสบภัยอย่างครบถ้วน
                 และทั่วถึง พบว่า


 
ร้อยละ
มั่นใจ
           ( โดยแบ่งเป็น มั่นใจมาก ร้อยละ 11.1 และ มั่นใจค่อนข้างมาก
             ร้อยละ 21.1 )
32.3
ไม่มั่นใจ
          
( โดยแบ่งเป็น ไม่ค่อยมั่นใจ ร้อยละ 54.5 และ ไม่มั่นใจเลย
             ร้อยละ 13.2 )
67.7
 
 
             3. ความพึงพอใจต่อการทำงานของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ปัญหาผู้ประสบภัยน้ำท่วม
                 (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน)


 
คะแนนเฉลี่ย
(คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
ด้านมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือ/เยียวยา
แก่ผู้ประสบภัย
6.22
ด้านความฉับไวในการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที
5.43
ด้านการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคต
5.08
ด้านการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยน้ำท่วม
5.07
เฉลี่ยรวม
5.45
 
 
             4. เรื่องที่เป็นห่วงหรือกังวลใจมากที่สุดหลังน้ำลด คือ

 
ร้อยละ
การทุจริตคอร์รัปชันเงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยและ
ฟื้นฟูบูรณะ
32.6
โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำลด
26.7
ความล่าช้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือ และขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน
24.2
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
9.6
ห่วงว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะกลับมา
4.5
อื่นๆ ได้แก่ ห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน การไร้ที่อยู่อาศัย
              ขยะและสิ่งปฏิกูล ฯลฯ
2.3
 
 
             5. แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคตที่ต้องการมากที่สุด คือ

 
ร้อยละ
การปลูกป่า รักษาสิ่งแวดล้อม
33.0
ปรับปรุงระบบชลประทานเพื่อกักเก็บและระบายน้ำให้ดีขึ้น
31.7
มีการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย
19.4
ปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้า
14.3
อื่นๆ ได้แก่ หมั่นขุดลอกคูคลอง และทำถนนให้สูงขึ้น
1.6
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ
ในทุกภาคของประเทศ  โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการ
สัมภาษณ์แบบพบตัวและสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,122 คน  เป็นเพศชายร้อยละ 54.2 และเพศหญิง
ร้อยละ 45.8
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัวและสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม
ที่มีโครงสร้างแน่นอน  ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form)
จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 4 พฤศจิกายน 2553
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 5 พฤศจิกายน 2553
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
608
54.2
             หญิง
514
45.8
รวม
1,122
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 25 ปี
210
18.7
             26 – 35 ปี
318
28.4
             36 – 45 ปี
300
26.7
             46 ปีขึ้นไป
294
26.2
รวม
1,122
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
604
53.9
             ปริญญาตรี
466
41.5
             สูงกว่าปริญญาตรี
52
4.6
รวม
1,122
100.0
อาชีพ:
 
 
             ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
306
27.3
             พนักงานบริษัทเอกชน
200
17.8
             ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว
214
19.1
             รับจ้างทั่วไป
130
11.6
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
40
3.5
             อื่นๆ อาทิ นิสิตนักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน
232
20.7
รวม
1,122
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776