analyticstracking
หัวข้อ   “สถานะของการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19…จุดไหนที่คนไทยพร้อม
สถานะของการรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประชาชนร้อยละ 47.2 จองคิวแล้วกำลังรอฉีด
รองลงมาร้อยละ 19.3 รอดูสถานการณ์วัคซีนทางเลือก และร้อยละ 14.9 รอจองคิวลงทะเบียน
ขณะที่ร้อยละ 9.2 ไม่คิดว่าจะฉีด โดยให้เหตุผลว่า กังวลกลัวว่าจะแพ้วัคซีน
คนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 91.4 อยากฉีดเพราะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและคนในสังคม
โดยร้อยละ 49.5 จองคิวลงทะเบียนที่ อสม. หรือโรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษา
ในภาพรวมส่วนใหญ่ร้อยละ 74.0 ทราบข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดวัคซีน
โดยข้อมูลที่ทราบมากที่สุดคือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
ส่วนข้อมูลที่ทราบน้อยที่สุดคือ ไม่ควรกินยาลดไข้ แก้ปวด เพราะอาจบดบังการตอบสนองต่อวัคซีน
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจ
ความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “สถานะของการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19…จุดไหน
ที่คนไทยพร้อม” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน
1,248 คน พบว่า
 
                  เมื่อถามว่า “ท่านอยู่ในสถานะใด ของการรับการฉีดวัคซีนโควิด-19”
ประชาชนร้อยละ 47.2 จองคิวแล้วกำลังรอฉีด
รองลงมาร้อยละ 19.3 รอดูสถานการณ์
วัคซีนทางเลือกมากกว่านี้ และร้อยละ 14.9 รอจองคิวลงทะเบียน ขณะที่ร้อยละ 9.2 ไม่คิด
ว่าจะฉีด
 
                 โดยเมื่อถามเหตุผลผู้ที่ไม่คิดจะฉีดวัคซีนโควิด-19 พบว่า กลุ่ม
ตัวอย่างร้อยละ 35.0 กังวลกลัวว่าจะแพ้วัคซีน
รองลงมาร้อยละ 30.4 กลัวเพราะมี
โรคประจำตัว ร้อยละ 13.0 ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด และร้อยละ 9.8 ได้รับข้อมูล
ผลกระทบ และอาการแพ้ จากการฉีดวัคซีนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ
 
                  ส่วนเหตุผลที่เลือกจะฉีดวัคซีนโควิด-19 พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 91.4 อยากฉีดเพราะช่วยสร้างภูมิ
คุ้มกันให้ตัวเองและคนในสังคม
รองลงมาร้อยละ 58.8 กลัวติดโควิดเพราะสถานการณ์การระบาดเพิ่มมากขึ้น และร้อยละ
38.8 เชื่อหมอและบุคลากรทางการแพทย์พูดให้ข้อมูล
 
                  เมื่อถามว่า “หากท่านจะฉีดวัคซีน จะจองคิวลงทะเบียนผ่านช่องทางใด” ประชาชนร้อยละ 49.5
จะจองคิวลงทะเบียนที่ อสม. หรือโรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษา
รองลงมาร้อยละ 34.5 จะจองคิวลงทะเบียนผ่าน
แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ภาครัฐเปิดให้ลงทะเบียน และร้อยละ 10.3 จะลงทะเบียนผ่านจุดฉีดวัคซีน หรือ on-site
registration
 
                  สำหรับการรับทราบเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดวัคซีนพบว่า ในภาพรวมส่วนใหญ่ร้อยละ 74.0
ทราบข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดวัคซีน
ขณะที่ร้อยละ 26.0 ไม่ทราบ โดยข้อมูลที่กลุ่มตัวอย่างรับทราบมากที่สุดคือ
ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือ มียาประจำที่ต้องรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน (คิดเป็นร้อยละ 85.0) ส่วน
ข้อมูลที่รับทราบน้อยที่สุดคือ ไม่ควรกินยาลดไข้ แก้ปวด เพราะอาจบดบังการตอบสนองต่อวัคซีน (คิดเป็นร้อยละ
54.5)
 
                  รายละเอียดตามประเด็นข้อคำถามดังต่อไปนี้
 
             1. ข้อคำถาม “ท่านอยู่ในสถานะใด ของการรับการฉีดวัคซีนโควิด-19”                  

 
ร้อยละ
จองคิวแล้วกำลังรอฉีด
47.2
รอดูสถานการณ์วัคซีนทางเลือกมากกว่านี้
19.3
รอจองคิวลงทะเบียน
14.9
ได้รับการฉีดแล้ว
7.3
ยอมจ่ายเองกับยี่ห้อวัคซีนที่ต้องการ หรือซื้อแพ็กเกจไปฉีดต่างประเทศ
2.1
ไม่คิดว่าจะฉีด
9.2
 
 
             2. เหตุผลที่เลือกจะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19  (ถามเฉพาะผู้ที่ไม่คิดว่าจะฉีดในข้อที่ 1)

 
ร้อยละ
กังวลกลัวว่าจะแพ้วัคซีน
35.0
กลัวเพราะมีโรคประจำตัว
30.4
ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด
13.0
ได้รับข้อมูล ผลกระทบ และอาการแพ้ จากการฉีดวัคซีนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ
9.8
วัคซีนทางเลือกมีน้อย
6.5
อื่นๆ อาทิเช่น ตั้งครรภ์ ดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว
5.3
 
 
             3. เหตุผลที่เลือกจะฉีดวัคซีนโควิด-19 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

 
ร้อยละ
อยากฉีดเพราะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและคนในสังคม
91.4
กลัวติดโควิดเพราะสถานการณ์การระบาดเพิ่มมากขึ้น
58.8
เชื่อหมอและบุคลากรทางการแพทย์พูดให้ข้อมูล
38.8
หาข้อมูลผลกระทบวัคซีนมาแล้วทุกยี่ห้อ
22.8
การฉีดวัคซีนเท่ากับเอาชนะโควิดได้
11.8
เชื่อข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ
8.9
เห็นดารา นักร้อง นักแสดง ฉีดเป็นตัวอย่าง
3.9
เห็นนักการเมืองฉีดเป็นตัวอย่าง
3.7
อื่นๆ อาทิเช่น อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เป็นกลุ่มที่เสี่ยง หน่วยงานที่ทำงานให้ฉีด
2.5
 
 
             4. ข้อคำถาม “หากท่านจะฉีดวัคซีน ท่านจะจองคิวลงทะเบียนผ่านช่องทางใด”

 
ร้อยละ
อสม. หรือโรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษา
49.5
แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ภาครัฐเปิดให้ลงทะเบียน
34.5
กานลงทะเบียนผ่านจุดฉีดวัคซีน หรือ on - site registration
10.3
อื่นๆ อาทิเช่นไม่แน่ใจว่าจะลงทะเบียนอย่างไร ไม่ทราบว่าลงอย่างไร
5.7
 
 
             5. การรับทราบเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดวัคซีน                  

ข้อมูล
ทราบ
(ร้อยละ)
ไม่ทราบ
(ร้อยละ)
1) ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือ มียาประจำที่ต้องรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน
85.0
15.0
2) ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ และงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
77.8
22.2
3) สองวัน ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ให้งดออกกำลังกายหนักๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
77.7
22.3
4) ไปถึงสถานที่ก่อนเวลา เตรียมเอกสารยืนยันตัวตน
76.7
23.3
5) หากเจ็บป่วย มีไข้ ไม่สบาย ให้เลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
73.1
26.9
6) รับประทานอาหารให้เรียบร้อย หากมียารักษาโรคประจำตัวก็ให้รับประทานได้เลย
72.9
27.1
7) ไม่ควรกินยาลดไข้ แก้ปวด เพราะอาจบดบังการตอบสนองต่อวัคซีน
54.5
45.5
เฉลี่ยรวม
74.0
26.0
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  1) เพื่อสะท้อนถึงสถานะของการรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประชาชน
                  2) เพื่อสะท้อนถึงเหตุผลที่ท่านเลือกที่จะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19
                  3) เพื่อสะท้อนถึงเหตุผลที่ท่านเลือกที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19
                  4) เพื่อสะท้อนถึงการรับทราบเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดวัคซีน
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป
โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random
Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 24 – 27 พฤษภาคม 2564
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 29 พฤษภาคม 2564
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
575
46.1
             หญิง
673
53.9
รวม
1,248
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
72
5.8
             31 – 40 ปี
180
14.4
             41 – 50 ปี
322
25.8
             51 – 60 ปี
364
29.2
             61 ปีขึ้นไป
310
24.8
รวม
1,248
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
745
59.7
             ปริญญาตรี
377
30.2
             สูงกว่าปริญญาตรี
126
10.1
รวม
1,248
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
198
15.9
             ลูกจ้างเอกชน
261
20.9
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
444
35.6
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
34
2.7
             ทำงานให้ครอบครัว
1
0.1
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
255
20.4
             นักเรียน/ นักศึกษา
12
1.0
             ว่างงาน/ รวมกลุ่ม
43
3.4
รวม
1,248
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898