analyticstracking
หัวข้อ   “ คนไทยคิดอย่างไร?หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
                 หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ประชาชนเริ่ม กลับไปเปิดร้าน กลับไปทำงาน เดินเที่ยวห้าง
     และนั่งทานอาหารในร้าน ขณะที่ร้อยละ 41.0 อยู่บ้านเหมือนช่วงยังไม่คลายล็อกดาวน์
                 ทั้งนี้พบว่าประชาชนร้อยละ 54.5 มีความเชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุดว่า ห้างร้าน ต่างๆ
      จะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้ในระยะยาว
                 ส่วนร้อยละ 62.7 มีความกังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุดว่าหลังจากผ่อนคลายมาตรการ
      ล็อกดาวน์อาจนำไปสู่การติดเชื้อระลอกใหม่ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 71.7 เห็นด้วยกับมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง
     ที่ต้องมีหลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส หรือผลตรวจ ATK เป็นลบ ก่อนจึงเข้าใช้บริการร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ได้
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง
“คนไทยคิดอย่างไร?หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์” โดยเก็บข้อมูลจาก
ประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,200 คน พบว่า
 
                  กิจกรรมที่ประชาชนทำหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาคือ ได้กลับไปเปิดร้าน ได้กลับไปทำงาน ร้อยละ
15.5
รองลงมาคือ เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้อยละ 11.9 และนั่งทานอาหาร
ในร้าน ร้อยละ 11.4 ขณะที่ ร้อยละ 41.0 ระบุว่า อยู่บ้านเหมือนช่วงที่ยังไม่มีการผ่อน
คลายมาตรการล็อกดาวน์
 
                  เมื่อถามว่า เชื่อมั่นเพียงใดว่าสถานประกอบการ ห้างร้าน ต่างๆ
จะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ในระยะยาว ประชาชน
ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.5 ระบุว่า เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
ขณะที่ร้อยละ
45.5 ระบุว่า เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
 
                  ส่วนความกังวลว่าหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อาจนำไปสู่การติดเชื้อระลอกใหม่ นั้น
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 62.7 ระบุว่า กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ขณะที่ร้อยละ 37.3 ระบุว่า กังวลค่อนข้าง
น้อยถึงน้อยที่สุด
 
                  สำหรับความเห็นต่อการเตรียมใช้มาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง สำหรับลูกค้าที่ เข้าร้านอาหาร
ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องมีหลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส หรือผลตรวจ ATK เป็นลบ
ตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.7 เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า ลดความเสี่ยงจากการรับ และการแพร่
เชื้อ โควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานในร้าน
ขณะที่ร้อยละ 28.3 ระบุว่าไม่เห็นด้วย
โดยให้เหตุผลว่า เร็วเกินไปยังฉีดวัคซีนไม่ทั่วถึงทำให้เสียลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะถูกตัดสิทธิ์
ในการใช้บริการ
 
                  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
             1. สิ่งที่ทำหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา คือ

 
ร้อยละ
เปิดร้าน/กลับไปทำงาน
15.5
เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า
11.9
นั่งทานอาหารที่ร้าน
11.4
เข้าร้านตัดผม/เสริมสวย
10.4
ไปสนามกีฬา/ออกกำลังกายกลางแจ้ง
4.8
เที่ยวต่างจังหวัด/วางแผนท่องเที่ยว
4.3
เข้าร้านนวด
0.7
อยู่บ้านเหมือนช่วงที่ยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
41.0
 
 
             2. ท่านเชื่อมั่นเพียงใด ว่าสถานประกอบการ ห้างร้าน ต่างๆ จะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19
                  อย่างเคร่งครัด ในระยะยาว


 
ร้อยละ
เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นค่อนข้างมาก ร้อยละ 41.3 และเชื่อมั่นมากที่สุด ร้อยละ 4.2)
45.5
เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ร้อยละ 42.0 และเชื่อมั่นน้อยที่สุด ร้อยละ 12.5)
54.5
 
 
             3. ท่านกังวลเพียงใดว่าหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อาจนำไปสู่การติดเชื้อระลอกใหม่

 
ร้อยละ
กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น กังวลค่อนข้างมาก ร้อยละ 45.9 และกังวลมากที่สุด ร้อยละ16.8 )
62.7
กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น กังวลค่อนข้างน้อย ร้อยละ 28.8 และกังวลน้อยที่สุด ร้อยละ 8.5)
37.3
 
 
             4. ความเห็นต่อการเตรียมใช้มาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง สำหรับลูกค้าที่ เข้าร้านอาหาร ร้านเสริมสวย
                  ตัดผม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องมีหลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส หรือผลตรวจ ATK เป็นลบ
                  ด้วยแพลตฟอร์มไทยเซฟไทย ตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้


 
ร้อยละ
เห็นด้วย
โดยให้เหตุผลว่า    
ลดความเสี่ยงจากการรับ และการแพร่เชื้อ โควิด-19 ร้อยละ 37.4
สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานในร้าน ร้อยละ 34.3
71.7
ไม่เห็นด้วย
โดยให้เหตุผลว่า    
เร็วเกินไปยังฉีดวัคซีนไม่ทั่วถึงทำให้เสียลูกค้าในกลุ่มที่
ไม่ได้รับวัคซีน
ร้อยละ

14.6

ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะถูกตัดสิทธิ์ในการใช้บริการ ร้อยละ 7.1
เกิดการแบ่งแยกทางสังคม เลือกปฏิบัติตามมา ร้อยละ 5.1
อื่นๆ อาทิ ฉีดวัคซีนครบแล้วก็ยังติดเชื้อได้ ยุ่งยาก เข้มงวดเกินไป ฯลฯ ร้อยละ

1.5


28.3
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่ทำหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ความเชื่อมั่นในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของห้างร้านต่างๆ ตลอดจนความกังวลเรื่องการติดเชื้อระลอกใหม่
และความเห็นที่มีต่อการเตรียมใช้มาตรการโควิดฟรีเซตติ้งสำหรับการเข้าใช้บริการ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก
ด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 13-15 กันยายน 2564
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 18 กันยายน 2564
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
600
50.0
             หญิง
600
50.0
รวม
1,200
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
102
8.5
             31 – 40 ปี
161
13.4
             41 – 50 ปี
302
25.2
             51 – 60 ปี
321
26.7
             61 ปีขึ้นไป
314
26.2
รวม
1,200
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
724
60.3
             ปริญญาตรี
356
29.7
             สูงกว่าปริญญาตรี
120
10.0
รวม
1,200
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
149
12.4
             ลูกจ้างเอกชน
244
20.3
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
405
33.8
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
90
7.5
             ทำงานให้ครอบครัว
2
0.2
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
255
21.2
             นักเรียน/นักศึกษา
20
1.7
             ว่างงาน
35
2.9
รวม
1,200
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
กรุงเทพโพลล์    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898